โรเบิร์ต คราฟธ์ เจ้าของทีม นิว อิงแลนด์ เพเทรียตส์ ยอมรับว่าเป็นวันที่สะเทือนอารมณ์อย่างมากหลังการตัดสินใจแยกทางกับ บิลล์ เบลิชิค ที่ทำงานเฮดโค้ชมานานถึง 24 ฤดูกาล สืบเนื่องจากผลงานของทัพนักรบกู้ชาติในช่วง 3-4 ปีล่าสุดไม่ใช่สิ่งที่ทีมต้องการจึงต้องมีการแก้ไขให้กลับมาอยู่ในเส้นทางที่ถูกต้องอีกครั้ง ตามรายงานจากเอ็นเอฟแอลเน็ตเวิร์ค 

'3 ปีที่ผ่านมาค่อนข้างยากลำบาก และผมรู้สำหรับแฟนๆที่ทุ่มเทของเราและตัวผมเอง และ (ในชีวิต) ผมเพิ่งเรียนรู้ว่าสิ่งต่างๆเกิดขึ้น' คราฟธ์ กล่าว 'ครอบครัวของเราเป็นผู้ดูแลทรัพย์สินนี้ นิว อิงแลนด์ เพเทรียตส์ เรารู้ว่ามันสำคัญแค่ไหนต่อจิตใจของชุมชน และสิ่งที่เกิดขึ้นที่นี่ในช่วง 3 หรือ 4 ปีที่ผ่านมาไม่ใช่สิ่งที่เราต้องการ เรามีความรับผิดชอบที่จะทำสิ่งที่เราสามารถทำได้เพื่อแก้ไขให้ดีที่สุดตามความสามารถของเรา' 

ความรับผิดชอบนั้นหมายถึงการพิจารณาอย่างจริงจังที่จะแยกทางกับ เบลิชิค ซึ่งนำแฟรนไชส์คว้าแชมป์ ซูเปอร์ โบวล์ 6 สมัยตลอด 24 ปีที่ผ่านมา ซึ่งรวมถึงการก้าวขึ้นมาของ ทอม เบรดี้ ควอร์เตอร์แบ็กดีที่สุดในประวัติศาสตร์ของเอ็นเอฟแอล ถึงแม้การตัดสินใจดังกล่าวจะสร้างความเจ็บปวดก็ตาม แต่ คราฟธ์ มั่นใจว่าการเลือกแนวทางดังกล่าวที่เขาและเฮดโค้ชวัย 71 ปีใช้เวลา 3 วันหลังจากการปิดฉากซีซั่นที่เลวร้ายสุดในศตวรรษนี้ของทัพนักรบกู้ชาติ

ก่อนต้นสัปดาห์ที่นี้ เบลิชิค เคยบอกเป็นนัยว่าเขาสามารถสละการควบคุมบุคลากรบางส่วนได้หากจะกลับมาทำงานเฮดโค้ชต่อไปในซีซั่น 2024 ซึ่ง คราฟธ์ เผยว่าข้อตกลงดังกล่าวได้รับการพิจารณาแล้วเช่นกัน แต่เขารู้สึกว่ามันไม่ใช่แนวทางที่เหมาะสมกับแฟรนไชส์แห่งนี้ 

'ใช่, เราก็คิดอย่างนั้น' คราฟธ์ กล่าว 'แต่คุณรู้ไหมว่าผมเคยมีประสบการณ์ในการดำเนินธุรกิจที่แตกต่างกันและพยายามพัฒนาทีม ลองคิดดูว่าเมื่อคุณมีคนอย่าง บิลล์ ควบคุมทุการตัดสินใจ โค้ชทุกคนที่เราว่าจ้าง องค์กรรายงานให้เขาทราบเกี่ยวกับดราฟ์ เราใช้เงินไปจำนวนเท่าไหร่ทุกการตัดสินใจของเจา เราสนับสนุนเขาตลอดมา'

'การที่จะเอาพลังนั้นออกไปและมอบให้คนอื่น ความรับผิดชอบเป็นสิ่งสำคัญสำหรับผม เมื่อเขามีความรับผิดชอบและคนอื่นรับไป มันจะทำให้เกิดความสับสน มันคงจะไม่ได้ผลในความคิดของผม'

'เราทุกคนต้องมีการตรวจสอบและถ่วงดุลในชีวิตของเรา' 

อย่างไรก็ตาม คราฟธ์ ยอมรับว่าเขาไม่รู้สึกว่าการทำข้อตกลงเทรด เบลิชิค ที่ยังมีสัญญาอีกหนึ่งปีจะเป็นเรื่องที่ถูกต้อง แม้ว่า เพเทรียตส์ จะได้รับผลตอบแทนกลับมาก็ตาม 'ผมโชคดีที่ในครอบครัวของเรา ธุรกิจของเราล้วนเป็นเรื่องส่วนตัว ดังนั้นเราจึงพยายามสร้างวัฒนธรรมแวดล้อมที่ผู้คนต้องการอยู่และอยู่ในระยะยาว'

'ใช่, ผมเดาว่าถ้าคุณมองว่านี่เป็นการทำธุรกรรม เขามีค่ามากและเราจะดึงบางสิ่งบางอย่างออกมาได้อย่างไร ผมไม่คิดว่ามันถูกต้อง ผมไม่คิดว่ามันเหมาะกับ ทอม เบรดี้ ที่ให้เรามา 20 ปี และผมไม่คิดว่ามันเหมาะกับ บิลล์ เช่นกัน'

'พวกเขาแต่ละคนได้รับสิทธิ์ที่จะอยู่ในตำแหน่งที่พวกเขาควรทำสิ่งที่ถูกต้องสำหรับเรา โดยคำนึงถึงสิ่งที่พวกเขาทำเพื่อแฟรนไชส์นี้ บางคนอาจวิพากษ์วิจารณ์ผมที่ไม่ดึงเอาคุณค่าออกมาและผมเข้าใจสิ่งนั้น แต่เราแค่พยายาม เพื่อทำสิ่งที่เราคิดว่าถูกต้องโดยมีค่านิยมและความสามารถในการดำเนินงานที่เหมาะสม และพยายามทำให้ผู้คนที่ต้องการมาและรู้สึกว่าเราจะปฏิบัติต่อพวกเขาอย่างยุติธรรม'