ในวันสุดท้ายของการแข่งขันรอบแบ่งกลุ่มมี 11 ทีมสุดท้ายที่คว้าตั๋วเข้ารอบได้สำเร็จประกอบด้วย ราปิด เวียนนา (ออสเตรีย), มัลโม่ (สวีเดน), เซบีย่า (สเปน), คราสโนดาร์ (รัสเซีย), แรนส์ (ฝรั่งเศส), บาเต้ (เบลารุส), เซลติก, บียาร์เรอัล (สเปน), เกงค์ (เบลเยียม), สลาเวีย ปราก (เช็ก) และ โอลิมเปียกอส (กรีซ)

โดยในรอบน็อกเอาต์ 32 ทีมจะเป็นทีมจากยูโรปา ลีก รอบแบ่งกลุ่มทั้งหมด 24 ทีม และอีก 8 ทีมที่หล่นมาจากยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีกซึ่งประกอบด้วย นาโปลี (อิตาลี), บาเลนเซีย (สเปน), อินเตอร์ (อิตาลี), เบนฟิก้า (โปรตุเกส), วิคตอเรีย พิลเซ่น (เช็ก), คลับ บรูช (เบลเยียม), ชัคตาร์ โดเนทส์ค (ยูเครน) และ กาลาตาซาราย (ตุรกี)

การจับสลากในรอบน็อกเอาต์ 32 ทีมสุดท้ายจะมีขึ้นในวันจันทร์ที่ 17 ธันวาคมนี้ โดยจะมีทีมวาง 16 ทีมเป็นตัวยืน และมีกฎกติกาเหมือนเดิมคือ ทีมจากประเทศเดียวกันจะไม่เจอกัน เช่นเดียวกับทีมจากกลุ่มเดียวก็จะไม่เจอกัน

ทีมวาง 16 ทีมประกอบด้วย เลเวอร์คูเซ่น (เยอรมัน), เร้ดบูลล์ ซัลซ์บวร์ก (ออสเตรีย), เซนิต (รัสเซีย), ดินาโม ซาเกร็บ (โครเอเชีย), อาร์เซน่อล (อังกฤษ), เรอัล เบติส (สเปน), บียาร์เรอัล (สเปน), แฟร้งค์เฟิร์ต (เยอรมัน), เกงค์ (เบลเยียม), เซบีย่า (สเปน), ดินาโม เคียฟ (ยูเครน), เชลซี (อังกฤษ), นาโปลี (อิตาลี), บาเลนเซีย (สเปน), อินเตอร์ (อิตาลี) และ เบนฟิก้า (โปรตุเกส)

ขณะที่อีก 16 ทีมที่ไม่ใช่ทีมวางประกอบด้วย ซูริค (สวิตเซอร์แลนด์), เซลติก (สกอตแลนด์), สลาเวีย ปราก (เช็ก), เฟเนร์บาห์เช่ (ตุรกี), สปอร์ติ้ง ลิสบอน (โปรตุเกส), โอลิมเปียกอส (กรีซ), ลาซิโอ (อิตาลี), มัลโม่ (สวีเดน), คราสโนดาร์ (รัสเซีย), แรนส์ (ฝรั่งเศส), บาเต้ บอริซอฟ (เบลารุส), วิคตอเรีย พิลเซ่น (เช็ก), คลับ บรูช (เบลเยียม), ชัคตาร์ โดเนทส์ค (ยูเครน) และ กาลาตาซาราย (ตุรกี)