เพลย์สุดท้ายตอนเหลือ 2.1 วินาที เลเกอร์ส ตาม 102-103 คะแนน แต่ได้ส่งบอลเข้าจากเบสไลน์ นักเก็ตส์ แล้วเฮดโค้ช แฟร้งค์ โวเกิ้ล วาดแผนให้ ราจอน รอนโด จ่ายลูกไปที่ว่างหน้าเส้นโค้งฝั่งซ้ายเพราะ เดวิส จะวิ่งตัดมารับแล้วจัมพ์ชู้ต ส่วน เลอบอรน เจมส์ ให้ดึงความสนใจไปอิรุงตุงนังแถวใต้แป้น 

ปรากฏว่าทุกอย่างเป็นไปตามคาด 'เอดี' วิ่งตัดจากขวามาซ้ายเหมาะเหม็งพร้อมโดดชู้ตหนีมือตัวประกบ นิโกล่า โยกิช ลูกย้อยลงห่วงสุดฉมังพร้อมเวลาที่หมดลง จนเจ้าตัวต้องระเบิดอารมณ์วิ่งมาร่วมดีใจที่ม้านั่งสำรอง

"คนในวงการก็เมาท์กันว่าผมไม่เคยมีโมงยามแบบนั้นมาก่อน เอาจริงๆมันเหมือนแรงกดดันนิดๆจนถามตัวเองว่า - ไอ้เราพร้อมยิงปิดเกมจริงๆหรือเปล่าวะ? - " เดวิส กล่าวกับเครือข่าย 'ทีเอ็นที' หลังจบเกม 

https://twitter.com/NBAonTNT/status/1307867927496982529/video/1

เดวิส บอกของมันต้องมี!

"ของมันต้องมี!หากผมอยากสร้างยุคทองให้ตัวเอง ผมต้องการทำเพลย์ตัดสินผลการแข่งขันให้สำเร็จ" 

"ทีมเราจะอยู่-หรือ-ตายในเกมล่าสุดขึ้นกับลูกชู้ตสุดท้ายของผม ลูกปลิดวิญญาณ แล้วผมก็ส่องลงไป นั่นคือเหตุผลที่ผู้บริหารดึงผมมาร่วมงาที่นี่ มาเพื่อเล่นลูกสำคัญ" 

นอกจากนั้นการสวมเสื้อแข่งสีดำ-ม่วง-ทอง ที่ชื่อว่า 'แบล็ค แมมบ้า' เมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมาก็เพื่อรำลึกถึงการเสียชีวิตของ โคบี้ ไบรอันท์ ตำนานผู้ล่วงลับของแฟรนไชส์เมื่อ 26 ม.ค.ด้วย 

"เลือกเจอร์ซี่ย์นี้มาใส่แล้วเราไม่อยากแพ้เกม หรือเอาจริงๆจะใส่ตัวไหนก็ไม่อยากปราชัย"

ด้านเฮดโค้ช โวเกิ้ล ก็ซูฮกฟร้อนท์คอร์ทวัย 27 ปี ว่าเด่นรุก-รับ ครบเครื่องจริงๆในเกมที่สองซีรี่ส์ "เราต้องการแปลงร่างเป็น โคบี้ และอยากสดุดีต่อความทรงจำที่มีถึงเขา แล้วมันก็เห็นผลว่านัดที่เพิ่งผ่านไปดูมีอารมณ์ร่วมมากกว่าเกมไหนๆ "

"เมื่อไหร่ก็ตามงัดเสื้อแข่ง 'อสรพิษทมิฬ'มาสวม เป็นได้องค์ลง" 

"อย่างลูกปลิดวิญญาณส่งทีมคว้าชัยวินาทีท้ายๆนั้น โคบี้ ไบรอันท์ ยังไงก็ชู้ตลง แล้วพอเจ้า 'เอดี' มันสามารถทำได้บ้างผมกล้าพูดว่านั่นคือฉากที่ยิ่งใหญ่สุดของเราในฤดูกาลนี้ - เรียกอะไรไปไมได้ดีกว่า เดวิส สำเร็จท่าไม้ตายอสรพิษทมิฬสังหาร" 

เดวิส คือคนที่ 7 ในประวัติศาสตร์ทีม เลเกอร์ส ที่ชู้ตปลิดวิญญาณให้ทีมชนะในเพลย์ออฟต่อจาก โคบี้ ไบรอันท์, เจอร์รี่ เวสต์, เอลจิ้น เบย์เลอร์, โรเบิร์ต ฮอร์รี่, เดอเร็ก ฟิสเชอร์ และ เมตตา เวิลด์ พีซ