:::     :::

เจ็บกายแต่ใจสู้

วันศุกร์ที่ 26 ตุลาคม 2561 คอลัมน์ เด็กเก็บบอล โดย ยักษ์เดนส์
1,609
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ศึกเอล กลาซิโก้ อันยิ่งใหญ่ระหว่าง บาร์เซโลน่า และ เรอัล มาดริด ที่จะระเบิดขึ้นในวันอาทิตย์นี้ ดูจะกร่อยลงไปสักหน่อยเมื่อไม่มี คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ที่ตัดสินใจย้ายจาก "ราชันชุดขาว" ไปค้าแข้งในอิตาลีกับ ยูเวนตุส
         เพราะตลอดระยะเวลา 9 ปีที่ผ่านมา ภาพติดตาของแฟนบอลก็คือการขับเคี่ยวกันของสองสุดยอดกองหน้าของโลกทั้ง ลิโอเนล เมสซี่ และ โรนัลโด้ ที่ฟาดฟันกันมาตลอดว่าใครคือนักเตะที่ดีที่สุดในโลก
         โดยเฉพาะยามที่ "เจ้าบุญทุ่ม" ต้องโคจรมาเจอกับ "ราชันชุดขาว" เรื่องนี้จะยิ่งถูกโหมให้รุนแรงขึ้นเพื่อที่จะดูกันว่าผลงานของใครจะดีกว่ากัน
         ทว่านับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปจะไม่มีอีกแล้วเพราะดาวยิงทีมชาติโปรตุเกสตัดสินใจโยกไปเล่นกับ "ม้าลาย" ทำให้ศึกนี้ลดทอนความน่าสนใจลงไปพอสมควรแม้มนต์ขลังของตัวมันเองจะยังคงอยู่
         และยิ่งล่าสุดเมื่อ เมสซี่ บาดเจ็บกระดูกแขนร้าว จากการประเมินว่าจะต้องพักราว 3 สัปดาห์ก็น่าจะทำให้เจ้าตัวชวดลงเล่นเกมนี้อย่างแน่นอน
         แต่ก็มีการจุดกระแสขึ้นมาของทาง ฮริสโต้ สตอยช์คอฟ ตำนานกองหน้าของทีมที่ออกมาหล่นทรรศนะว่ามีความเป็นไปได้ที่ เมสซี่ อาจจะฝืนอาการบาดเจ็บลงเล่นด้วยการให้ทีมแพทย์พันผ้าที่แข็งแรงเพื่อป้องกัน
         นี่ก็อาจจะเป็นแค่ความคิดเห็นส่วนตัวเท่านั้น ซึ่งไม่มีความจำเป็นถึงขั้นที่ดาวยิงทีมชาติอาร์เจนติน่าจะต้องเสี่ยงขนาดนั้น ถ้าหากว่า เรอัล มาดริด ยังมี คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ก็อาจจะพอมีแรงจูงใจขึ้นมาอยู่บ้าง แต่ตอนนี้มันไม่ใช่
         แต่ก็ใช่ว่ามันเป็นไปไม่ได้ อยู่ที่การตัดสินใจของนักเตะมากกว่า
         วันนี้จะพาไปดูนักเตะที่ฝืนลงสนามช่วยทีมทั้งที่มีอาการบาดเจ็บว่ามีใครกันบ้าง
ชื่อ : วิลฟรีด โบนี่
สโมสร : สวอนซี่
อาการบาดเจ็บ : เอ็นฉีก
     
         วิลฟรีด โบนี่ โด่งดังเป็นพลุแตกกับ สวอนซี่ ด้วยผลงานอันยอดเยี่ยมนับตั้งแต่ย้ายมาร่วมทีม สวอนซี ในปี 2013 ด้วยการตะบัน 25 ประตูจาก 48 เกมทุกรายการ ขึ้นเป็นหนึ่งในหัวหอกตัวอันตรายของพรีเมียร์ลีก
         ต่อเนื่องในซีซั่นี้ 2014/15 ก็ยังซัดไปอีก 9 ลูกจาก 20 นัดในลีก จน แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ทนไม่ไหวทุ่มเงิน 25 ล้านปอนด์ดึงตัวไปร่วมทีมในช่วงเดือนมกราคม แพงขึ้นอีกเท่าตัวจากที่ "หงส์ขาว" จ่ายให้กับ วิเทสส์
         เพียงแต่สุดท้ายเจ้าตัวไปไม่รอดต้องระหกระเหินกลับมาอยู่กับทีมอีกครั้งด้วยสัญญายืมตัวในปี 2016/17 ก่อนที่จะย้ายกลับมาอย่างถาวรในฤดูกาลถัดมา
         ส่วนเรื่องลงเล่นทั้งที่มีอาการบาดเจ็บนั้นเกิดขึ้นในเกมที่ทีมบุกเยือน เลสเตอร์ ซิตี้ ในเดือนกุมภาพันธ์ปี 2017/18 ที่ผ่านมา ซึ่งมีจังหวะ โบนี่ บาดเจ็บลงไปนอนกับพื้นเกิดขึ้นตอนที่ขึ้นโหม่งลงและผิดจังหวะจนทีมแพทย์ต้องเข้ามาดูอาการ แต่สุดท้ายเจ้าตัวก็เล่นต่อกันไปจนจบเกม
         หลังจากนัดนั้น แฟนบอลสวอนซีได้รู้ข่าวร้ายว่า โบนี่ เจออาการบาดเจ็บเล่นงานอย่างหนักจากอาการเอ็นข้อเท้าฉีกซึ่งทำเจ้าตัวต้องพักยาวจนจบฤดูกาล ซึ่งทีมแพทย์เผยว่าที่รุนแรงเพราะเจ้าตัวฝืนเล่นต่อจนจบเกม และนั่นเป็นเกมสุดท้ายที่เราได้เห็นเขาลงสนามจนถึงตอนนี้
ชื่อ : สจ๊วร์ต เพียร์ซ
สโมสร : เวสต์แฮม ยูไนเต็ด
อาการบาดเจ็บ : ขาหัก
   
         หนึ่งในนักเตะจอมระห่ำอีกคนหนึ่งเท่าที่โลกลูกหนังเคยมีมา
         สจ๊วร์ต เพียร์ซ สมัยที่ค้าแข้งกับ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ลงสนามพบกับ วัตฟอร์ด เจ้าตัวได้ปะทะกับ ไมก้าห์ ฮายด์ กองกลางของ วัตฟอร์ด ในช่วงครึ่งแรกของการแข่งขันพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อปี 1999
         ในเวลานั้น เพียร์ซ ยังอยู่ลงเล่นจนครบ 45 นาทีแรกของเกม ก่อนกลับสู่ห้องแต่งตัว เพียงแต่ความบ้าคลั่งไม่จบเท้านั้น เจ้าตัวทั้งที่รู้ว่าตัวเองมีอาการบาดเจ็บแต่กลับพยายามจะสวมรองเท้าลงเล่นต่อในครึ่งหลังจน แฮร์รี่ เร้ดแน็ปป์ นายใหญ่ทัพขุนค้อนในเวลานั้นต้องออกมาเบรกเอาไว้ก่อน
        อันที่จริงแล้วเจ้าตัวดึงดันที่จะลงเล่นให้ได้ เพียงแต่พอลงน้ำหนักที่เท้าแล้วมีอาการเจ็บทำให้สุดท้ายต้องยอมโดนเปลี่ยนตัว
         "เขาสวมรองเท้ากลับไปและจะลงสนามต่อ มันเป็นอะไรที่สุดยอดจริงๆ" เร็ดแน็ปป์ กล่าว
         หลังจากนั้นอีก 6 เดือน เพียร์ซ ได้รับอาการบาดเจ็บซ้ำที่เดิม แต่คราวนี้เจ้าตัวไม่ฝืนเล่นต่อ แต่ก็ยังยังทรนงไม่ยอมขึ้นเปลโดนแบกออกและเดินออกมาด้วยตัวเอง
ชื่อ : เชส ฟาเบรกาส
สโมสร : อาร์เซน่อล
อาการบาดเจ็บ : กระดูกเท้าแตก
     
         หนึ่งในนักเตะที่สร้างชื่อมาจากการเล่นในพรีเมียร์ลีก อังกฤษ และจารึกชื่อของตัวเองด้วยการถูกบันทึกเข้าใน 'กินเนสต์ เวิลด์ บุ๊ก 2019' ว่าเป็นผู้เล่นที่ทำ 100 แอสซิสต์เร็วที่สุด
         ด้วยความยอดเยี่ยมในเรื่องของฝีเท้าจนได้รับตำแหน่งปลอกแขนกัปตันทีมในวัยเพียง 21 ปี ทำให้เขาเป็นหนึ่งในนักเตะที่อายุน้อยที่สุดของทีม 
         ในเกมยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีกรอบก่อนรองชนะเลิศที่ทีมพบกับ บาร์เซโลน่า ในปี 2009/10 ในเกมเลกแรกที่เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม เชส ฟาเบรกาส เผยว่าตัวเองได้รับบาดเจ็บกระดูกเท้าขวาแตกในสักแห่งในช่วงต้นครึ่งแรก 
         แต่ท่ายที่สุดแล้วกองกลางชาวสเปนยังอยู่เล่นจนจบเกมแถมยังเป็นคนที่ยิงจุดโทษประตูตีเสมอให้กับทีมในช่วงท้าย ก่อนที่เกมจบลงที่ผล 2-2
         นอกจากนี้เจ้าตัวยังเผยอีกว่าในเกมก่อนหน้าที่ทีมพบกับ เบอร์มิงแฮม มีความรู้สึกเหมือนว่าขาหักก่อนที่จะโดนเปลี่ยนตัวออกในช่วงครึ่งหลังของเกม
         "บางคนคิดว่าผมขาหักในเกมกับ เบอร์มิงแฮม, แต่ผมไม่รู้เรื่องจริงๆ ผมคิดว่าอาการบาดเจ็บมาจากจังหวะที่ผมยิงจุดโทษเข้าไป"
ชื่อ : แว็งซ็องต์ ก็อมปานี 
ทีมชาติ : เบลเยี่ยม
อาการบาดเจ็บ : จมูกหัก

         หนึ่งในกองหลังที่แข็งแกร่งและใจสู้ที่สุดคนหนึ่งของวงการ แต่ที่ผ่านมาก็ถือว่าโชคร้ายกับการเผชิญหน้ากับอาการบาดเจ็บอยู่บ่อยครั้ง
         แต่แม้การเล่นจะเสี่ยงต่ออาการบาดเจ็บและเจอกับตัวมามากแค่ไหน แว็งซ็องต์ ก็อมปานี ก็ยังไม่เปลี่ยนแปลงสไตล์การเล่นอันดุดันของตัวเอง
         ย้อนกัลบไปในเกมการแข่งขันฟุตบอลโลก 2014 รอบคัดเลือกโซนยุโรปที่ เบลเยี่ยม พบกับ เซอร์เบีย จากจังหวะที่ทีมได้ลูกเตะมุมในครึ่งแรก ก็อมปานี ที่โถมเข้าไปโหม่งปะทะกับ วลาดิเมียร์ สตอยโควิช มือกาวของ เซอร์เบีย ที่ออกมาชกชอบแต่ศอกก็กระแดกเข้าเต็มหน้าเหมือนกัน
               
         ผลสรุปเจ้าตัวลงไปนอนกับพื้นพร้อมกับเลือดนองหน้าต้องออกมาปฐมพยายามก่อนที่จะกลับไปลงสนามต่อจนจบเกมด้วย และกระทั่งมีการเปิดเผยว่าเจ้าตัวเจ็บถึงขั้นจูมกหัก
         แต่หลังจบเกมเจ้าตัวยังทวิตเตอร์ของตัวเองพร้อมจูมกที่บิดเบี้ยวพร้อมข้อความว่า "ขอบคุณสำหรับทุกเสียงเชียร์ - คุณทำอะไรเพื่อชาติของคุณบ้างล่ะ"
ชื่อ : โรนัลโด้
ทีมชาติ : บราซิล
อาการบาดเจ็บ : มีปัญหาความฟิตก่อนเริ่มเกม
       
         หนึ่งในเหตุการณ์ที่ได้ชื่อว่าเป็นอีกหน้าประวัติศาสตร์ของวงการลูกหนังและฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย
         และมันเกิดขึ้นกับสุดยอดนักเตะที่ถูกยกให้เป็นกองหน้าที่ดีที่สุดตลอดกาลเท่าที่โลกใบนี้เคยมีมานาม โรนัลโด้
         ในฟุตบอลโลก 1998 รอบชิงชนะเลิศที่ บราซิล จะลงชิงชนะกับ ฝรั่งเศส เจ้าภาพ ซึ่งมีการเปิดเผยว่า "เหยินใหญ่" มีอาการแปลกๆก่อนเกมชิงถ้วยไม่กี่ชั่วโมงว่าน้ำลายฟูมปาก, หายใจติดขัด, ตัวซีด ซึ่งทีมแพทย์ลงมติว่าไม่ให้เขาลงสนามในเกมนัดนี้พร้อมทั้งส่งตัวไปยังโรงพยาบาลทันที
         หลังจากการตรวจอย่างละเอียดมีการยืนยันว่าไม่มีอาการอะไรที่น่าเป็นห่วง แต่ก็ยังสั่งห้ามไม่ให้เจ้าตัวลงสนามอยู่ดี
         อย่างไรก็ตาม โรนัลโด้ ยืนยันว่าต้องการลงสนามเพื่อช่วยทีม ทว่าสุดท้ายเจ้าตัวที่โชว์ฟอร์มดีมาตลอดทัวร์นาเม้นต์เล่นไม่ออกก่อนที่ทีมจะลงเอยด้วยความพ่ายแพ้ 0-3 
         แม้จะมีการคาดเดากันไปต่างๆนาๆว่าเกิดอะไรที่ ในเมื่อไม่ไหวแล้วทำไมยังต้องลงเล่น ซึ่งสื่อเผยว่า ไนกี้ ซึ่งเป็นสปอนเซอร์ของ บราซิล และ โรนัลโด้ บังคับให้เจ้า "โล้นทองคำ" ต้องลงสนาม
         อย่างไรก็ตามทั้ง โรนัลโด้ และ ไนกี้ ได้ออกมาปฏิเสธเรื่องดังกล่าวว่าไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด
                          


ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด