สถิติถือว่ายอดเยี่ยม ชนะ 10 เสมอ แถมสอยตาข่ายไปมากกว่า 37 ประตู (มากที่สุดของลีกในตอนนี้) แถมเสียไปเพียง 13 ประตูเท่านั้น
แน่นอนว่า บรรดาแนวรุกของทีมต่างได้รับความดีความชอบไปถ้วนหน้าไม่ว่าจะเป็น เจดอน ซานโช่, ยาค็อบ บรุนน์ ลาร์เซ่น หรือ ปาโก้ อัลกาเซร์ ที่ทำผลงานงานได้ดี โดยมี มาร์โค รอยส์ เป็นหัวใจและพลังขับเคลื่อน
แต่คนที่มีส่วนสำคัญทำให้เกมของ เสือเหลือง สมดุลและมีจังหวะจะโคนที่ลงตัวและดีกว่าที่ผ่านๆมาคงหนีไม่พ้น อักเซล วิตเซล ที่เข้ามาทำหน้าที่เป็นห้องเครื่องให้กับทีมได้อย่างลงตัว
ค่าตัวราว 20 ล้านยูโรในช่วงซัมเมอร์ดูถูกลงไปถนัดตาเมื่อวัดจากผลงานในช่วงที่ผ่านมาของกองกลางชาวเบลเยียม ....
... แม้จะมีสถิติเป็นทีมที่มีแนวรุกที่ดีที่สุดอันดับ 3 ในฤดูกาลที่ผ่านมาด้วยจำนวน 64 ประตู แต่ปัญหาของ ดอร์ทมุนด์ คือการขาดตัวทำลายเกมและคุมจังหวะซึ่งบ่อยครั้งถึงจะยิงได้มาก แต่จำนวนที่เสียไป (ในแต่ละเกม) กลับมากกว่า
นั่นคือเหตุผลหลักที่พวกเขาอาจจะก้าวไปกดดัน บาเยิร์น ได้ในช่วงหนึ่ง แต่ก็ต้องหลุดวงโคจรไป ซึ่งนั่นคือสิ่งที่เกิดขึ้นตลอด 6 ซีซั่นที่ผ่านมา
ทำให้ช่วงหน้าร้อนที่เพิ่งผ่านพ้นไปนี้ ทีมจัดการกำจัดจุดอ่อนและไปพบกับฟันเฟืองสำคัญที่ชื่อว่า อักเซล วิตเซล
ประสบการณ์อันโชกโชน ผ่านร้อนหนาวในวงการฟุตบอลก็ไม่น้อย และที่สำคัญ กองกลางวัย 29 ปี ดูจะเหมาะและเข้ากับระบบที่ ลูเซียง ฟาฟร์ ต้องการและนั่นทำให้แข้งรายนี้เฉิดฉายกับหน้าที่ปิดทองหลังพระ (ซึ่งมีบางครั้งก็เปลี่ยนมาปิดหน้าพระเช่นกัน)
อีก 1 ปัจจัยคือพละกำลังในการวิ่งไล่บี้คู่แข่งแบบไม่มี รวมไปถึงความดุดันในการตัดเกมทำลายจังหวะ ทำให้ เสือเหลือง ชุดนี้ของ ฟาฟร์ ดูแข็งแกร่งและสามารถจัดการแนวรุกของฝ่ายตรงข้ามได้เป็นอย่างดี
ด้วยการทำงานร่วมกับ โธมัส เดอลานี่ย์ ที่ย้ายมาในเวลาไล่เลี่ยกัน ทำให้แดนกลางของ ดอร์ทมุนด์ ดูขึงขังและมีพละกำลังมากกว่าเดิม นอกจากนี้ยังมีอะไหล่อย่าง มาห์มูด ดาอู๊ด ที่เริ่มพัฒนาผลงานขึ้นมาพร้อมเป็นทางเลือกอีกทาง
"การเป็นนักเตะที่ยอดเยี่ยมในระดับทีมชาติของ อักเซล จะนำประสบการณ์และคุณภาพเข้ามาสู่แผงมิดฟิลด์ของทีม" มิชาเอล ซอร์ก ผู้อำนวยการกีฬาของถิ่น ซิกนั่ล อีดูน่า พาร์ค กล่าวไปเมื่อช่วงเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา
"เขามีการรับรู้ถึงแท็คติก ความแข็งแกร่ง เมื่อเข้าปะทะแย่งบอล ความเร็ว, การสร้างสรรค์ และ ความคิดในการเล่น"
อย่างที่เรียนไปว่า วิตเซล มาพร้อมประสบการณ์ที่สั่งสมมาจากหลายลีก แม้จะไม่ใช่ 5 ลีกใหญ่ แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าบรรดาลีกอย่าง เบลเยียม, โปรตุเกส และ รัสเซีย ทำให้แข้งวัย 29 ปีได้เรียนรู้สิ่งต่างๆมากมาย รวมไปถึงเวทีระดับชาติที่เขามีโอกาสปะทะกับแข้งคนสำคัญมากนักต่อนัก
ที่สำคัญไปกว่านั้นคือโอกาสในการลงเล่นในเวทีระดับชาติทั้ง ยูโร และ ฟุตบอลโลก จึงปฏิเสธไม่ได้ว่า 'ประสบการณ์' ของเขามีประโยชน์กับเด็กหนุ่มในทีม ดอร์ทมุนด์ อย่างมาก
"ผมพร้อมที่จะเป็นผู้นำ" วิตเซล เคยกล่าวไว้ตอนย้ายมาร่วมทีม
"ผมอายุ 29 ปี และเป็นหนึ่งในผู้เล่นที่อายุมากที่สุดในทีม เรามีกลุ่มนักเตะที่เต็มไปด้วยทักษะ แต่ยังเป็นเด็กหนุ่ม สำหรับพวกเขา การที่ได้มาเล่นให้ ดอร์ทมุนด์ ตอน 19 หรือ 20 ปี เป็นเรื่องยอดเยี่ยม"
นับเฉพาะสถิตินัดที่ผ่านมากับ ไฟร์บวร์ก กองกลางรายนี้แสดงให้เห็นถึงการครองเกมและพื้นที่ตรงกลางของสนาม ทั้งจังหวะการเอาชนะในการปะทะ รวมไปถึงผ่านบอลสำเร็จมากกว่า 124 ครั้ง
แม้เส้นทางในฤดูกาล 2018/19 ยังคงเหลืออีกยาวไกล แต่สำหรับ ดอร์ทมุนด์ และ วิตเซล นี่คือสัญญาณที่ดีของพวกเขา ผลงานในสนามคือตัวพิสูจน์และที่ผ่านมาก็ทำได้ดีทีเดียว
โดยเฉพาะ วิตเซล ที่เข้ามาทำให้ ดอร์ทมุนด์ แข็งแกร่งยิ่งไปกว่าเดิม
