ล่าสุด "ซานติ กาซอร์ล่า" กองกลางเชิงสูงของบียาร์เรอัล สามารถกลับมาทำผลงานได้อย่างน่าประทับใจในฤดูกาลนี้ ส่งผลให้เขามีชื่อติดทีมชาติสเปน อีกครั้ง
การถูกเรียกติดทัพ "กระทิงดุ" ในครั้งนี้ ถือเป็นการติดทีมครั้งแรกในรอบ 4 ปีเลยทีเดียว โดยครั้งสุดท้ายต้องย้อนกลับไปที่เกมอุ่นเครื่อง ในช่วงเดือนพฤศจิกายน 2015
ทำให้ตัวเลขในการติดทีมชาติ ค้างอยู่ที่ 77 เกม กับผลงานการยิง 4 ประตู เป็นระยะเวลานาน ซึ่งการคัมแบ็คหนนี้ ถือเป็นการฝ่าฟันที่หนักหนาเป็นอย่างมาก
"แบคทีเรีย กัดกินเท้าของผม" กาซอร์ล่า เล่าย้อนความทรงจำถึงอาการบาดเจ็บของตัวเอง โดยเกิดขึ้นที่บริเวณเอ็นร้อยหวาย ที่มาถึงจุดแตกหักในช่วงเดือนตุลาคม 2016 ส่งผลให้ต้องเข้ารับการผ่าตัดมากกว่า 10 ครั้ง การติดเชื้อรุนแรงมาก ผิวหนังบริเวณเท้าสูญหายไป 8 เซนติเมตร จนต้องตัดผิวหนังบริเวณท่อนแขนไปปลูกถ่ายแทน ส่งผลให้ชิ้นส่วนตรงแขนที่เป็นรอยสักชื่อลูกสาวต้องหายไปด้วย
"ศัลยแพทย์บอกกับผมว่า เขาไม่เคยเห็นกรณีที่รุนแรงแบบนี้มาก่อนเลย เนื่องจากมันเป็นบาดแผลแบบเปิด ทำให้เชื้อแบคทีเรีย สามารถผ่านเข้าไปได้ ค่ำคืนหนึ่ง มีน้ำเหลืองไหลออกมาจากเท้าของผม ทุกครั้งที่คุณหมอเย็บบาดแผล น้ำเหลืองก็จะไหลออกมาเรื่อยๆ และมันไหลออกมามากขึ้นกว่าเดิม คุณหมอทำการตัดแต่งตรงผิวหนัง อย่างไรก็ตาม พวกเขาไม่ได้เห็นว่า อะไรหลุดเข้าไปอยู่ข้างในบ้าง เท้าของผมมีเชื้อแบคทีเรีย มันกัดกินไปเรื่อยๆ"
"คุณหมอบอกกับผมว่า อย่าเพิ่งไปกังวลเรื่องการกลับมาเล่นฟุตบอล เพราะสิ่งที่สมควรทำเป็นอันดับแรก นั่นคือการกลับมาใช้ชีวิตตามปกติให้ได้เสียก่อน แค่การกลับมาเดินเล่นกับลูกได้ มันก็น่าจะพอใจมากแล้ว ย้อนกลับไปเวลานั้น ผมมีความคิดที่จะยอมแพ้เหมือนกัน มันเป็นเรื่องที่ยากมาก เมื่อคุณไม่เห็นสถานการณ์ที่ดีขึ้น"
กาซอร์ล่า ยอมรับว่าเขาเกือบแขวนสตั๊ดเหมือนกัน แต่สิ่งที่ทำให้ตัดสินใจกลับมาสู้อีกครั้ง คือกำลังใจจากครอบครัว และเพื่อน โดยบอกว่าเกือบทุกวัน เขาจะได้รับข้อความจากเพื่อนร่วมทีมชาติสเปน อย่างอันเดรส อิเนียสต้า, ดาบิด ซิลบา และดาบิด บีย่า ที่คอยถามสารทุกข์สุกดิบอยู่เสมอ
"ผมว่ามันเป็นเรื่องของการปล่อยวางนะ ทุกสิ่งทุกอย่างที่ผมผ่านมา มันไม่ง่ายเหมือนที่หลายคนคิด ไม่มีใครเชื่อมั่นในตัวผม ผมก็ต้องเชื่อมั่นในตัวเอง นั่นคือสิ่งที่ผมเป็น ซึ่งผมจะไม่ยอมต่อคนที่ไม่คิดว่าผมจะกลับมาเล่นฟุตบอลได้อีกครั้ง ผมจะกลับมา"
"ผมมองฟุตบอล ในมุมที่แตกต่างออกไป ก่อนหน้านี้ ผมไม่เคยเห็นคุณค่าของการเข้าพักที่โรงแรมกับสโมสร หรือเดินทางไปแข่งขันตามสนามต่างๆเลย แต่ผมต่อสู้อย่างหนัก เป็นระยะเวลา 2 ปี เพื่อเอาช่วงเวลาแบบนี้กลับคืนมาอีกครั้ง ผมพยายามสนุก และใช้ประโยชน์จากมันในทุกวินาที เพราะผมไม่รู้เลยว่า สิ่งเหล่านี้จะอยู่กับผมอีกนานแค่ไหน"
กาซอร์ล่า เผยความรู้สึก หลังมีชื่อกลับมาติดทีมชาติสเปน อีกครั้งว่า "ผมมีความสุขมากจริงๆ ผมได้อ่านข้อความดีๆมากมายที่หลายคนส่งมา ผมผ่านความฝันที่เลวร้าย ผมไม่เคยคิดเลยว่า ตัวเองจะกลับมาอยู่ตรงจุดนี้อีกครั้ง ผมขอบคุณทุกคนที่เคียงข้างผมเสมอในช่วงเวลาที่ยากลำบาก ทีมแพทย์ทุกคน และครอบครัวของผม หากไม่มีพวกเขาแล้ว ผมคงไม่สามารถทำมันได้อย่างแน่นอน"
"ผมจะทำตัวให้สนุก ผมวางแผนเอาไว้ว่า ตัวเองจะทำทุกอย่างแบบสุดความสามารถ เหมือนที่ผมเคยทำเสมอยามเล่นทีมชาติ สำหรับผมแล้ว นี่คือฤดูกาลที่ยอดเยี่ยม แต่ผมไม่เคยคาดคิดเลยว่า ผมจะกลับมาติดทีมชาติอีกครั้ง ผมไม่อยากเชื่อเลย เพราะผมบาดเจ็บไปนานกว่า 2 ปี"
"การบาดเจ็บที่ยาวนาน ถือเป็นเรื่องที่ยากมาก ในการกลับมาเล่นในระดับสูงอีกหน ผมอายุเริ่มมากขึ้น ผมรู้ดีว่า มันยากลำบาก ในการมีชื่อเข้าไปอยู่ในนามทีมชาติ แต่ผมสามารถกลับไปอยู่ในระดับของตัวเองได้ ขอบคุณเพื่อนร่วมทีม และกลุ่มสตาฟโค้ชทุกคน ที่ช่วยผลักดันให้ผมทำสิ่งนี้ได้"
"ความรู้สึกเหล่านี้ เหมือนตอนที่ผมถูกเรียกติดทีมชาติเป็นครั้งแรก แน่นอนว่า ถือเป็นสิ่งที่ผมไม่เคยคาดคิด และผมจะพยายามสนุกกับมันให้เต็มที่ ผมต้องเปลี่ยนแผนวันหยุดของตัวเอง เพื่อบางอย่างที่ดีขึ้น ผมคงรู้สึกตื่นเต้น และสนุกกับการเล่นฟุตบอลของตัวเอง"
