อาจแลกมาด้วยเม็ดเงินที่สูงเกินอาชีพอื่น ๆ แต่เป็นอาชีพที่มาพร้อม “ความเสี่ยง” สามารถปิดฉากบนเวทีสีเขียวได้ในเร็ววัน

หลายคนถูกโชคชะตาลักพาไปพร้อมอาการบาดเจ็บ เก็บรองเท้าเข้าชั้นบอกลาผืนหญ้าตั้งแต่วัยหนุ่ม บางส่วนปล่อยกายใจไปกับแสงสี ยอมเสียตับเพื่อถนอมใจ หยิบความมีวินัยไปโยนทิ้งถังขยะ รู้สึกตัวอีกที ก็สูญเสียโอกาสสำคัญไป

อย่างที่บอก นักฟุตบอลอาชีพ มีระยะเวลาสั้น ไม่นับผู้รักษาประตู หากอายุเกินเลข 30 คุณแทบผ่านจุดพีคสุดของชีวิตไปแล้ว อายุการใช้งานที่เหลือ ต้องแลกด้วยประสบการณ์ ระเบียบ วินัย การดูแลตัวเองดี แก่งแย่งตำแหน่งการเล่นกับ นักเตะพลังหนุ่ม ที่เติบโตขึ้นมา

บางคนถอยตัวเองลงไปเล่นในระดับลีกรอง ประคองตนเองเท่าที่สังขารจะพอเอื้อไหว

อย่างไรก็ดียังมีผู้เล่นอีกกลุ่ม ที่เป็นเหมือน “ครูลูกหนัง” นอกห้องเรียนให้เด็กรุ่นใหม่เดินตาม แข้งกลุ่มนี้อายุอานามปัจจุบันขณะ ทะลุช่วง 35 ปีไปแล้ว แต่ยังยึดหยัดบนเวทีลีกสุงสุดไทยลีกอย่างสง่า

วันนี้เราจะมาจัดทีมไทยลีก ที่ประกอบด้วยผู้เล่นอายุมากกว่า 35 กัน

 

ผู้รักษาประตู

สินทวีชัย หทัยรัตนกุล (38 ปี)

นี่คือตัวอย่างชั้นดีของนักฟุตบอลรุ่นใหม่ที่ควรเดินตาม “พี่บอล” คือ 1 ในผู้เล่นที่แสดงให้เห็นถึงความเป็นผู้นำ มีวินัย และเป็นมืออาชีพอย่างแท้จริง แม้จะฉายแสงตั้งแต่วัยละอ่อน เคยออกนอกรันเวย์ลูกหนังตามแสงสี แต่ก็กลับมาสู่วิถีลูกหนังอาชีพได้ จนวัยเกือบจะแตะ 40 ปีแล้ว เขายังคงเป็น 1 ในประตูมือดีที่สุดในไทยลีกเช่นเดิม

 

กองหลัง
สมภพ นิลวงษ์ (37 ปี)

แม้จะไม่ได้โด่งดังระดับซุป’ตาร์ เหมือนแข้งรายอื่น ทว่า “พี่เอก” คือ 1 ในนักเตะที่พูดได้ว่า “ของจริง” ตลอดระยะเวลากว่า 15 ปี บนสนามรบสีเขียว เขายังรักษามาตรฐานการเล่นได้ไม่ตก ซึ่งนั่นรวมถึงวินัย การดูแลตัวเอง จนทำให้ถึงวันนี้ ยังสามารถโลดแล่นบนลีกสูงสุดได้อย่างสบาย

 

อดุลย์ หมื่นสมาน (39 ปี)

หากเห็นบังดุลในสนาม เราอาจคิดว่าอายุเขาคง 20 ปลาย ๆ เพราะหลายครั้ง ที่ปราการหลังหลายนี้ไล่กวด หรือพาบอลหนีดาวรุ่งอย่างสบาย ๆ แม้ผู้เล่นในวัยเขา จะได้รับสัญญาแบบปีต่อปี  แต่ผลงานในสนามพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า เขายังไหวอยู่ กับลีกสูงสุด

 

เอกลักษณ์ ทองกริต (36 ปี)

ระเบียบวินัย ความมุ่งมั่นในสนาม คือสิ่งที่ทำให้ “เอก” ยังอยู่บนลีกสูงสุดได้ แม้ช่วงหลังเขาจะได้รับบทบาทรอบนม้านั่งมากกว่าเป็นตัวจริง แต่เมื่อได้รับโอกาส เขาพร้อมใช้ประสบการณ์ที่สะสมมา ช่วยทัพ “ราชันมังกร” ได้อยู่เสมอ

 

กองกลาง

ธีรเทพ วิโนทัย (35 ปี)

แม้จะโด่งดังตั้งแต่อายยุน้อย มีประสบการณ์ระดับทีมชาติมากมาย  แต่สิ่งที่ไม่เคยหายไปจากดีเอ็นเอของ “ลีซอ” คือความมุ่งมั่น ทุกครั้งที่ได้รับโอกาสลงสนาม รวมถึงระเบียบวินัย และไม่ว่าคุณจะมองเขาภายนอกในมุมแบบไหน แต่หากเป็นเรื่องฟุตบอลเขาคือ “ของจริง”

 

พีรพงศ์ พิชิตโชติรัตน์ (35 ปี)

อีกหนึ่งผู้เล่นที่เติบโตมากับสารบบ “บิ๊กทีม” และสามารถยืนหยัดมาได้จนจวบปัจจุบันขณะ นั่นบ่งบอกถึงฝีตีน วินัย และความเป็นมืออาชีพได้อย่างดี การลงเล่นลีกสูงสุดมาต่อเนื่องทะลุ 10 ปี ในบทบาทมิดฟิลด์ และเป็นกำลังหลักช่วยทีมได้ตลอด คือคำตอบชั้นดีว่าคลาสของ “เบนซ์” เป็นเช่นไร

 

อมร ธรรมนาม (36 ปี)

จากแข้งโนเนมไร้คนรู้จัก กาลเวลาผ่านเขาค่อย ๆ โชว์ฝีตีนเตะตาทีมใหญ่ ใช้ชีวิตอยู่บนฟลอร์ลูกหนังไทยไม่มีหมด ทั้งวินัย ลูกเก๋า นั่นทำให้หลายทีมยังต้องการเขาเสมอ เช่นเดียวกับฤดูกาลนี้ ที่ พีที ประจวบ ดึงเจ้าตัวกลับมาช่วยทีมอีกครั้ง

 

นพพล ปิตะฝ่าย (35 ปี)

หนึ่งในนักเตะที่ผ่านร้อนหนาวมามากมาย ไม่ว่าจะเป็นสโมสรใหญ่ กลาง หรือเล็ก ในระดับลีกสูงสุด แม้สถานะปัจจุบัน เขาจะเป็นตัวเลือกรองจากรุ่นน้องในทีม แต่เมื่อได้รับโอกาส ก็พร้อมลงเล่นอย่างมีวินัย และสามารถปฏิบัติตามแท็คติกของโค้ชเสมอ

 

กองหน้า

อดิศักดิ์ ศรีกำปัง (35 ปี)

อีกหนึ่งผู้เล่นที่มากด้วยวินัยสำหรับ กองหน้าวัยเก๋า ผู้ผ่านการลงเล่นให้กับสโมสรนับไม่ถ้วนในระดับลีกสูงสุด แม้วัยจะปาเข้าไป 35 ทว่าความเร็ว และประสบการณ์ยังช่วยทีมได้เสมอ อีกทั้งการดูแลความฟิตได้เป็นอย่างดี สิ่งเหล่านี้คือสูตรสำเร็จในชีวิตค้าแข้ง ที่ทำให้ยังคงลงเล่นบนลีกสูงสุดได้ไม่มีหมด

 

ชาตรี ฉิมทะเล (36 ปี)

เจ้าชายบีจี ผู้เป็น “วันแมนคลับ” คนเดียวในไทยลีกที่ค้าแข้งกับสโมสรเดียวมาเกิน 10 ปี ในขณะนี้ บนวัย 36 เขายังคงอยู่บนลีกสูงสุดได้อย่างสบาย ด้วยสภาพร่างกาย วินัย ที่พร้อมตลอด อีกทั้งยังต้องการทำประตูที่ 100 ของตัวเองในไทยลีกให้ได้

 

ดิยุฟ บิรัม (35)

บิรัม คือ 1 ในแข้งกาฬทวีปที่เข้ามาเปิดตลาดในยุคไทยลีกตั้งไข่ เวลาผ่านไปกว่า 10 ปี ไทยลีกที่ถีบตัวเอง แข่งขันสูงขึ้น เริ่มมีการจ้างผู้เล่นต่างชาติเกรด บี-เอ เข้าทีม จนผู้เล่นแอฟริกาเริ่มหายไปจากไทยลีก แต่ บิรัม ยังคงยืนหยัดอยู่ได้ มามากกว่า 10 ปี