:::     :::

คิดแทนคล็อปป์: ใครดีหนอ ที่จะดีพอเป็นตัวแทนของ เทรนท์

วันอังคารที่ 10 พฤศจิกายน 2563 คอลัมน์ ศาสดา On The Ball โดย ศาสดาลูกหนัง
1,237
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
อาการบาดเจ็บของ "เทรนท์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์" ดูจะเป็นอีกครั้งที่คนบนฟ้ากำลังทดสอบ ลิเวอร์พูล ในฤดูกาลนี้ว่าดีพอสำหรับการป้องกันแชมป์หรือเปล่า

นับนิ้วกางออกมานับ จะพบว่านี่เป็นครั้งที่ 14 แล้วที่หงส์แดงต้องพบกับปัญหาขาดนักเตะในทีม ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอาการบาดเจ็บหรือติดโควิด-19 ก็ตาม แต่ทุกครั้ง เจอร์เก้น คล็อปป์ ก็สามารถแก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้เสมอ ทั้งตอนที่ไม่มี อลิสซอน หรือตอนไม่มี ฟาน ไดค์ และกับโจทย์ใหม่นี้ของ เทรนท์ ซึ่งต้องพักรักษาตัวราวๆ 4 สัปดาห์ เรามาลองคิดแทน คล็อปป์ กันดีกว่าว่าบิ๊กบอสหงส์แดงจะหาทางออกของปัญหานี้ยังไง


1) เนโก วิลเลี่ยมส์

นี่คือตัวเลือกแรก ชนิดตำแหน่งต่อตำแหน่งเลยสำหรับการหาคนมาแทนที่ของ เทรนท์ โดยแบ็คขวาชาวเวลส์วัย 19 ปี รายนี้ลงสนามในฤดูกาลนี้ไปแล้ว 4 นัด แบ่งเป็นการลงเต็มเกมในถ้วย ลีก คัพ 2 นัด, แชมเปี้ยนส์ ลีก 8 นาที และในคอมมิวนิตี้ ชิลด์ 59 นาที แต่ในพรีเมียร์​ลีกฤดูกาลใหม่นี้ยังไม่เคยลงสนามเลยสักนาที

เจ้าหนู เนโก ถือเป็นแข้งที่มีพรสวรรค์พอสมควรแต่โอกาสลงสนามน้อยเพราะหงส์แดงมี เทรนท์ เป็นตัวจริงอยู่แล้ว ถ้าว่ากันตามตรงผลงานของ เนโก ที่ผ่านมาถือว่าไม่ขี้เหร่เลย และติดทีมชาติเวลส์ไปแล้วถึง 5 นัด ยิงได้ 1 ประตู แถมยังเป็นคนที่ เทรนท์ เองออกปากชมอยู่บ่อยๆ อีกด้วย

เกมแรกของ ลิเวอร์พูล ที่ไม่มี เทรนท์ คือนัดที่เปิดบ้านรับมือ เลสเตอร์ วันที่ 21 ซึ่งมีแนวโน้มสูงว่า คล็อปป์ อาจจะเลือกเขาลงสนามเป็นตัวจริง เพราะ เนโก นั้นเล่นแบ็คขวาเป็นธรรมชาติอยู่แล้ว จึงไม่ต้องปรับตัวหรือปรับแท็คติคอะไรมากมาย

โอกาสลงสนามแทน เทรนท์: 20%


2) เจมส์ มิลเนอร์

หาก คล็อปป์ ยังไม่มั่นใจในตัวของ เนโก วิลเลี่ยมส์ การถอย เจมส์ มิลเนอร์ ลงมาเล่นในตำแหน่งนี้ก็ถือว่าไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่อะไรเลย จากข้อมูลใน Transfermarkt มิลเนอร์ ลงสนามช่วย ลิเวอร์พูล ในตำแหน่งแบ็คขวามาแล้ว 9 นัด แต่ที่น่าสนใจก็คือ มิลเนอร์ สามารถแอสซิสต์ได้ถึง 3 ครั้งจาก 9 นัดที่ว่ามา นั่นแสดงให้เห็นว่า หากจะหาคนมาแทน เทรนท์ ในเรื่องเกมบุกตรงริมเส้น มิลเนอร์ น่าจะเป็นคำตอบที่เข้าท่ามากกว่า เนโก

นอกจากนี้ ประสบการณ์และความขยัน ยังเป็นอีก 1 ออปชั่นที่ มิลเนอร์ เหนือกว่า โดยเฉพาะเกมยุโรปที่ต้องเจอกับ อตาลันต้า ในนัดกลางสัปดาห์ ซึ่งสำคัญต่อการเข้ารอบมาก น่าจะเป็นจุดที่ทำให้ มิลเนอร์ ดูมีภาษีมากกว่า เนโก พอสมควรเลยทีเดียว

โอกาสลงสนามแทน เทรนท์: 30%


3) ฟาบินโญ่

นี่น่าจะเป็นตัวเลือกที่เข้าท่ามากที่สุดแล้วในมุมมองของผม เพราะจากสถิติของ ฟาบินโญ่ สมัยเล่นให้ โมนาโก นั้น ดาวเตะชาวบราซิลรายนี้รับบทบาทแบ็คขวามากถึง 96 นัด ยิงได้ 9 และทำไปถึง แอสซิสต์ ก่อนที่จะเริ่มหันมาเล่นกองกลางตัวรับ ฟาบินโญ่ เล่นในตำแหน่งฟูลแบ็คมาก่อน ซึ่งครั้งนึงเขาเคยถูกเว็บไซต์ Bleacher Report เรียกว่า นิว ไมค่อน เลยด้วยซ้ำ แต่พอถูกจับมาเล่นกองกลางตัวรับ เขากลับทำผลงานได้ดีกว่าตอนเล่นแบ็ค นานๆ ทีถึงจะถูกจับไปยืนตำแหน่งเก่าบ้าง แต่ก็ไม่บ่อยนัก

ฤดูกาลนี้ ฟาบินโญ่ จอมสารพัดประโยชน์เคยลงมายืนเป็นเซนเตอร์เพื่อแทน ฟาน ไดค์ มาแล้ว และทำผลงานได้ดีเยี่ยมอีกต่างหาก ดังนั้น มีโอกาสสูงเช่นกันที่ คล็อปป์ จะเลือกใช้ ฟาบินโญ่ มาเล่นในตำแหน่งแบ็คขวาชั่วคราว เพราะนักเตะอาจไม่ต้องปรับตัวเยอะแถมยังสามารถหุบเข้ากลางไปช่วยเล่นลูกโด่งได้อีกด้วย

โอกาสลงสนามแทน เทรนท์: 40%


4) โจ โกเมซ

อีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจของ คล็อปป์ ก็คือ โจ โกเมซ ครับ เพราะแข้งอิงลิชรายนี้ก็เคยเล่นแบ็คขวาให้ทีมมาแล้วถึง 43 นัด และทำได้ 2 แอสซิสต์ในนัดที่เจอกับ

อาร์เซน่อล และ เอฟเวอร์ตัน ปี 2017 แต่หากเดาใจ คล็อปป์ เขาคงไม่ให้ โจ โกเมซ เล่นแบ็คขวาในช่วงนี้แน่นอน เพราะ โจ คือตัวหลักในตำแหน่งเซนเตอร์ของทีม หลังจาก ฟาน ไดค์ เจ็บ แต่อาจเอาไว้เป็นออปชั่นเสริมยามจำเป็นจริงๆ มากกว่า

โอกาสลงสนามแทน เทรนท์: 7%


5) ตัวเลือกอื่นๆ

คล็อปป์ มักจะเซอร์ไพรส์แฟนๆ อยู่เสมอ ไม่แน่เหมือนกันว่านอกจากรายชื่อข้างต้น เขาอาจลองดันเด็กในอะคาเดมี่ขึ้นมา หรืออาจเล่นแร่แปรธาตุกับนักเตะคนอื่นๆ ในทีมก็เป็นได้ อาทิ โจเอล มาติป, จอร์จินโญ่ ไวจ์นัลดุม หรือ นาบี เกอิต้า ทว่า ทางเลือกนี้คงเกิดขึ้นได้ยากมาก ยกเว้นแต่ว่าจะมีตัวเจ็บเพิ่มอีกเท่านั้น

โอกาสที่จะเกิดขึ้น: 3%

 

ไม่ว่าสุดท้ายแล้ว คล็อปป์ จะเลือกใครลงสนามในตำแหน่งของ เทรนท์ เรื่องนึงที่ทางพรีเมียร์ลีกควรตระหนักได้แล้วก็คือ โควต้าการเปลี่ยนตัวที่ทำได้แค่ 3 คน ต่างจากลีกอื่นที่สามารถเปลี่ยนได้ถึง 5 คน ผลกระทบตรงนี้มันไม่ได้แค่ส่งผลกับ ลิเวอร์พูล ทีมเดียวเท่านั้น แต่มันกำลังจะส่งผลไปถึงทีมชาติและผลงานของทีมในอังกฤษบนถ้วยยุโรปด้วยซ้ำ

 

การกรำศึกหนักถี่ๆ ทำให้นักเตะหลายทีมเริ่มออกอาการล้าและบาดเจ็บง่ายขึ้น มันไม่ใช่แค่เรื่องของการได้เปรียบเสียเปรียบระหว่างทีมเล็กหรือทีมใหญ่อีกต่อไปแล้ว กับสถานการณ์ที่แต่ละทีมมีโปรแกรมแน่นขนาดนี้ แถมยังมีปฏิทินฟีฟ่า เดย์ คอยสอดแทรกตลอดเวลาอีก การเพิ่มโควต้าเปลี่ยนตัวได้ 5 คนต่อเกม มันคือการช่วยปกป้องนักเตะทางอ้อม หากพรีเมียร์ลีกยังยืนยันที่ใช้กฏเดิมแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ เคสของ เทรนท์ คงไม่ใช่เคสสุดท้ายของฤดูกาลนี้อย่างแน่นอน



ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด