:::     :::

วันของ"เด็ก"หงส์

วันพุธที่ 02 ธันวาคม 2563 คอลัมน์ ศาสดา On The Ball โดย ศาสดาลูกหนัง
1,333
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
เป็นเซอร์ไพรซ์ครั้งที่เท่าไรของเจอร์เก้น คล็อปป์แล้วก็ไม่รู้นะครับ ที่เขาสร้างความแปลกและประหลาดใจกับแฟนๆ ลิเวอร์พูลและแฟนบอลทั่วโลก กับการตัดสินใจของเขา และส่วนใหญ่ผลลัพพ์ที่ออกมามันก็แสดงให้เห็นว่าเขานั้นตัดสินใจได้ถูกเสียด้วยสิ



เรื่องปวดหัว ไม่หยุดหย่อน

    
          ก่อนหน้านี้ลิเวอร์พูลเองก็มีปัญหาผู้เล่นบาดเจ็บกันเพียบอยู่แล้วครับ และมีข่าวร้ายเพิ่มเข้ามาก่อนเกมอีก เมื่อพ่อหมี อลิสซง เบ็คเกอร์ได้รับบาดเจ็บที่กล้ามเนื้อ hamstring ทำให้เขาลงเล่นในนัดนี้ไม่ได้แน่นอน ซึ่งตรงนี้หลายๆ คนก็คงคิดกันว่ายังไงก็คงเป็นอาเดรียนนั่นแหละ ที่ได้โอกาสลงมาเฝ้าเสาในสถานการณ์แบบนี้ แต่คล็อปป์กลับตัดสินใจ เลือกที่จะใช้งาน ควีวิน เคลเลเฮอร์ ผู้รักษาประตูหน้าหล่อวัย 22 สตาร์ทเป็นตัวจริงแบบสุดเซอร์ไพรส์จริงๆ ครับ และอีก 1 ตำแหน่ง ที่ดูเหมือนจะมีปัญหามากๆ คือ ตำแหน่งแบ็กขวา ที่เจ้าหนูเนโก วิลเลี่ยมส์นั้นโดนวิจารย์อย่างหนักมาตลอดในช่วงหลัง คล็อปป์จะตัดสินใจอย่างไร จะเอาฟาบินโญ่ลงไปแทนไหม หรือจะใช้มิดฟิลด์ลงมาอุดช่องว่างตรงนี้แทน แต่คล็อปป์ก็เซอร์ไพรซ์ซ้ำสอง ที่เขายัง”ซื้อใจ” เนโก วิลเลี่ยมอยู่เหมือนเดิม และมันเหมือนเป็นสัญญาณจากกุนซือชาวเยอรมันว่า เขานั้นพร้อมที่จะหนุนหลังเจ้าหนูเนโกเสมอ ส่วนในตำแหน่งอื่นๆ นั้นถึงแม้จะเป็นผู้เล่นชุดใหญ่ทั้งหมด แต่ดูเหมือนว่าตอนนี้ลิเวอร์พูลจะมีปัญหาเรื่องสภาพร่างกายของผู้เล่นอยู่พอสมควรเลยครับ แต่คล็อปป์เองก็ไม่มีทางเลือกอะไรมากมายนัก ทำให้เขาต้องเข็นผู้เล่นอย่าง จินี่ ไวนัลดุ้ม , เฮนโด้ , มาเน่ , ซาล่า , โชต้าลงสนามมา แม้ว่าจะดูแล้วสภาพไม่ค่อยจะสู้ดีซักเท่าไรก็เถอะ





เด็กหงส์ปล่อยของ !!!

          ดาวเตะวัยคะนองของลิเวอร์พูลในเกมนี้นั้น ตอบแทนความไว้ใจของเจอร์เก้น คล็อปป์ได้อย่างสุดยอดจริงๆ ครับ โดยเฉพาะเจ้าหนุ่มควีวิน เคลเลเฮอร์ที่เกมนี้เขาโชว์ฟอร์มได้อย่างสุดยอดจริงๆ เขาลงเล่นในเกมที่ค่อนข้างสำคัญมากแบบนี้ แต่ก็ไม่แสดงอาการลนลานอะไรออกมาให้เห็นแม้แต่น้อย นอกจากจะไม่ก่อความผิดพลาดใดๆ ออกมาแล้ว เขายังโชว์เซฟสวยๆ ให้แฟนๆ ได้เห็นแทบจะทั้งเกม โดยเฉพาะจังหวะยิงไกลของนูส์แซร์ มาซราอูย ที่โชว์การพุ่งปัดไปได้อย่างสวยงาม และจังหวะการโชว์ปฏิกริยาป้องกันลูกโหม่งจ่อๆ ของคลาส แยน ฮุนเตลาร์  ไว้ได้อย่างยอดเยี่ยม พอเห็นเขาโชว์ฟอร์มแบบนี้ก็พอจะเข้าใจเลยล่ะครับ ว่าทำไมเขาถึงได้รับโอกาสก่อนอาเดรียนในเกมนี้ เพราะถ้าจะว่ากันตามความจริงแล้ว ช่วงหลังๆ นั้นอาเดรียนก่อความผิดพลาดค่อนข้างถี่เหลือเกิน การมีเคลเลเฮอร์มาเป็นตัวเลือกของทีมเพิ่มอีก 1 คน ย่อมเป็นผลดีกว่าแน่นอนอยู่แล้ว และยิ่งดูจากอายุการใช้งานที่เหลือยิ่งถือว่าเป็นเรื่องที่ยอดเยี่ยมสำหรับเจ้าตัวและทีมจริงๆ




          เพื่อนร่วมอาคาเดมี่อีก 2 คนอย่าง เคอร์ติส โจนส์ และเนโก วิลเลี่ยมนั้นก็ไม่น้อยหน้าครับ เกมนี้พวกเขามีผลงานเป็นชิ้นเป็นอันและจับต้องได้จริงๆ เจ้าหนูเนโกนั้นเกมรับยังดูไม่เข้าที่เข้าทางอยู่บ้าง และยังเป็นเป้าหมายให้คู่ต่อสู้เจาะอยู่บ่อยครั้ง แต่เกมนี้ดูเขาจะนิ่งขึ้นและไม่ก่อความผิดพลาดแบบชัดเจนเหมือนหลายเกมที่ผ่านมา แถมเกมนี้เจ้าตัวยังได้แอสซิสต์จากการโยนบอลด้วยเท้าซ้ายไปให้กับเคอร์ติส โจนส์คู่หู่จากอคาเดมี่ ดีดเข้าไปอย่างสวยงาม นี่อาจจะผลงานที่จับต้องได้เป็นครั้งแรกของเนโก และน่าจะช่วยยกระดับความมั่นใจให้เขาได้ จากการที่เขาเจอวิจารย์อย่างหนักหน่วงเหลือเกินในช่วงเวลาที่ผ่านมา ซึ่งถ้าเขาสามารถผ่านมันไปได้ นั่นจะส่งผลดีต่อลิเวอร์พูลมากทีเดียวครับ เพราะตำแหน่งแบ็กขวาในตอนนี้ มีปัญหาค่อนข้างมากเหลือเกินและคล็อปป์เองก็วางเขานี่แหละไว้เป็นตัวเลือกต่อจากเทรนท์ ถ้าเขายกระดับการเล่นของตัวเองขึ้นมาได้ ลิเวอร์พูลจะมีตัวเลือกในการจัดทัพเพิ่มขึ้นกว่าเดิมมากมายเลยล่ะครับ  ส่วนเจ้าหนูมหัศจรรย์อย่างเคอร์ติส โจนส์ในเกมนี้ เขาก็เล่นได้อย่างยอดเยี่ยมเช่นกันครับ เขาน่าจะเป็นมิดฟิลด์ที่สมบูรณ์ที่สุดในแผงมิดฟิลด์ที่คล็อปป์เลือกส่งมาแล้ว เฮนโด้ก็ยังไม่สมบูรณ์เนื่องจากเพิ่งฟื้นจากอาการบาดเจ็บมาหมาดๆ ส่วนไวนัลดุ้มก็กรำศึกหนักเหลือเกินในช่วงนี้เพราะเขาแทบจะลงสนามทุกๆ เกมอยู่คนเดียวจริงๆ แถมสลับตำแหน่งไปเรื่อยๆ อีกต่างหาก ดังนั้นหน้าที่ในการวิ่งไล่ ตัดเกมทำเกมในเกมนี้เคอร์ติส โจนส์ต้องก้าวเข้ามามีบทบาทช่วยเหลือพี่ๆ ให้ได้ ซึ่งเขาก็ทำหน้าที่ได้อย่างดีเยี่ยมจริงๆ ครับ และยังสามารถทำประตูให้กับทีมได้อีก ซึ่งประตูนี้ก็แสดงให้เห็นถึงความทุ่มเทของเขา จากการวิ่งไปไล่บอลที่ดูจะล้นๆ ไปเหมือนกันของเนโกร  วิสัยทัศน์ของเขาที่อ่านทางบอลออกว่าเขามีโอกาสที่จะได้บอลแน่ๆ จากวิถีของบอลแบบนี้ และเทคนิกของเขาที่จัดการดีดด้วยข้างเท้าเข้าไปอย่างง่ายๆ  นี่คือเพชรเม็ดงามมากๆ จากรั้วอคาเดมี่ของลิเวอร์พูลครับ คนที่คอยประคบประหงมเด็กกะโปโลพวกนี้ตั้งแต่เล็กแต่น้อย จนเติบใหญ่มาได้ยอดเยี่ยมขนาดนี้อย่างอเล็กซ์​ อิงเกิลธอร์ป (ผู้ฝึกสอนเด็กชุดเยาวชน) คงจะปลื้มสุดๆ เป็นแน่แท้ทีเดียว


    


ผู้ใหญ่ปล่อยตัว


          ในขณะที่เด็กๆ ในทีมปล่อยของอันสนุกสนาน จุดแข็งอย่าง “แนวรุก” ของลิเวอร์พูลในเกมนี้ กลับกลายเป็นจุดที่ทำผลงานได้น่าผิดหวังไปซะอย่างนั้นเฉยเลย ไม่ต้องเจาะจงใครเป็นพิเศษครับ เพราะทั้งซาดิโอ มาเน่ , ดิโอโก้ โชต้า , โม ซาล่าห์ ล้วนแล้วแล้วทำผลงานได้ต่ำกว่ามาตรฐานของตัวเองทั้งสิ้น มาเน่ที่เคยเฉียบคม เกมนี้ก็ดูเหมือนว่าเขาค่อนข้างกดดันตัวเอง และตัดสินใจในจังหวะต่างๆ พลาดไปเสียหมด ทางด้านโม ซาล่าห์เองจากที่เคยเฉียบคมในจังหวะจบสกอร์ เกมนี้ก็ดูจะล้นๆ และไม่มีความแม่นยำและเฉียบคมเอาเสียเลย ส่วนดิโอโก้ โชต้าเกมนี้ก็ดูเหมือนว่าเขาจะใช้จังหวะเยอะเกินไปนิด ทำให้หลายๆ ครั้งพลาดโอกาสงามๆ ไปอย่างน่าเสียดาย นั่นคือ จังหวะที่ทั้ง 3 คนมีโอกาสจะทำประตูได้นะครับ ส่วนเรื่องการประสานงานกันของทั้ง 3 คนในเกมนี้ ดูสะเปะสะปะและมั่วซั่วๆ ยังไงชอบกล ซึ่งถ้ามามองกันตามความเป็นจริงแล้ว ก็เป็นเรื่องธรรมดานั่นแหละครับ ถึงโชต้าจะผลงานดีแค่ไหน แต่เขาก็ยังเป็นผู้เล่นที่เพิ่งจะมาเรียนรู้แนวทางการเล่นและเพื่อนร่วมทีมใหม่ๆ อยู่ดี ตรงนี้คงต้องปรับตัวกันต่อไป ซึ่งตรงนี้ถือว่าเป็นนิมิตรหมายอันดีอย่างนึง เพราะตอนนี้ลิเวอร์พูลจะไม่มีแค่ “3 ประสาน” แล้ว แต่จะมีเป็น “4 มหากาฬ” ในแดนหน้าแทน

          ถึงแม้จะกระท่อนกระแท่นกว่าที่คิดไปซักหน่อย แต่สุดท้ายลิเวอร์พูลก็พาตัวเองเข้ารอบไปจนได้ละครับ แถมเข้าไปในฐานะแชมป์กลุ่มเสียด้วย และกับสถานการณ์ที่ต้องการระยะห่างของการลงสนามแบบนี้ การมีเกมที่พักได้เพิ่มขึ้นมาบ้างอีก 1 เกม ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ดีจริงๆ ครับ YNWA ครับ

ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด