:::     :::

"เกราะไฟสายสปีด" Moises Caicedo ว่าที่กลางรับปีศาจแดงตัวใหม่

วันพุธที่ 23 ธันวาคม 2563 คอลัมน์ #BELIEVE โดย ศาลาผี
19,258
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
นี่จะเป็นอีกครั้งหนึ่งที่ทำให้แฟนแมนยูฝันหวานไปถึงอนาคตในระยะยาวอย่าง"มั่นคง" หลังจากการได้ตัวฟาคู และ ดิยาโล่ มาเสริมทีมนักเตะเยาวชนชุดสำรองอีกเพียบ และที่สำคัญ หมอนี่อาจจะเป็น "กลางรับที่แฟนผีรอคอย" ก็ได้ในอนาคต ถ้าซื้อตัวมาได้สำเร็จเรียบร้อย

พูดได้เลยว่านี่เป็นว่าที่นักเตะใหม่ของแมนยูไนเต็ดที่น่าสนใจมากที่สุดคนนึง ไม่ใช่เพียงแค่การไปหานักเตะอายุน้อยเข้าสโมสรเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่ความสามารถของนักเตะคนนี้ทั้งในเรื่องของจุดเด่น ภาคการเล่น

และ"แวว"ที่จะเก่งในอนาคต

ถือว่าสิ่งเหล่านี้มีอยู่เต็มตัวเลยสำหรับมิดฟิลด์ดาวรุ่งคนใหม่ของทีมที่น่าจะได้ย้ายเข้ามาแน่ๆไม่ผิดพลาด น่าจะประกาศofficialกันอีกไม่นาน เพราะสื่อต่างๆตีข่าวตรงกันทุกเจ้า และที่สำคัญคือแมนยูไนเต็ดน่าจะพยายามซื้อขายให้เสร็จสิ้นก่อนที่"กฎใหม่"จะมาถึงในต้นปี2021

เนื่องจากว่าพรีเมียร์ลีกกับสมาคมฟุตบอลอังกฤษได้แถลงกฏใหม่ของการซื้อขายนักเตะหลังจากBrexit ที่สหราชอาณาจักรออกจากสหภาพยุโรปในสิ้นปีนี้วันที่ 31 ธันวาคมนั่นเอง

โดยที่มีกฎเพิ่มขึ้นมา2ข้อใหญ่ๆ จะอธิบายแบบชาวบ้านๆก็คือ

1.การซื้อขายนักเตะจากประเทศอื่นในสหภาพยุโรปทั่วๆไป จะใช้แต้ม GBE ในการพิจารณา ซึ่งเป็นเกณฑ์เดียวกันเวลาที่ทีมเราจะใช้ข้อ Work Permit จากนักเตะนอกEU อย่างเช่นการซื้อพวกนักเตะอเมริกาใต้เป็นต้น

คิดง่ายๆก็คือ สมัยก่อนอังกฤษยังอยู่ในEU ดังนั้นการซื้อขายพวกนักเตะยุโรปมันก็เหมือนเป็นการซื้อภายใน พวกนอกEUก็เป็นพวก "คนนอก"(Gaijin) นั่นเอง

แต่ตอนนี้ พออังกฤษมีBrexitแยกตัวมาปุ๊บ ดังนั้นก็ถือว่าเขาไม่ได้เกี่ยวพันอะไรกับสหภาพยุโรปแล้ว พวกชาติใกล้เรือนเคียงในทวีปเดียวกันอย่าง โปรตุเกส สเปน ฝรั่งเศสทั้งหลายเหล่านี้ จึงกลายเป็น"คนนอก" สำหรับอังกฤษ เหมือนๆกับพวกจากชาติอเมริกาใต้ประมาณนั้น ดังนั้นแต้ม GBE ที่ต้องใช้พิจารณานักเตะเวลาซื้อขายจึงนำมาตัดสินด้วยเกณฑ์คล้ายๆกับการซื้อพวกตัวอเมริกาใต้นั่นเอง

การซื้อขายก็อาจจะยากและซับซ้อนขึ้น(เล็กน้อย) แต่ไม่น่าจะมีปัญหามากส่วนนี้ โดยที่ เกณฑ์ของGBEแบบคร่าวๆก็จะดูว่า นักเตะคนนั้นสามารถย้ายมาทีมเราได้ไหม โดยดูจากว่า

-การติดทีมชาติของนักเตะคนนั้น ไม่ว่าจะชุดไหน

-คุณภาพของสโมสรผู้ขายว่า อยู่ในลีกแบบใด อันดับที่เท่าไหร่

-ดูจำนวนนาทีที่ได้ลงสนามในรายการต่างๆให้สโมสร ของนักเตะผู้นั้น

ก็จะมีประมาณนี้สำหรับข้อแรก

2.เซ็นนักเตะนอกประเทศอายุต่ำกว่า 21 ได้เพียงแค่ 3 คน ในช่วงตลาดหน้าหนาว และ 6 คน ต่อ1ซีซั่น (ก็คือจำนวนmaxของการซื้อพวกต่ำกว่า21ไม่เกิน6คน) อีกทั้งยังไม่สามารถเซ็นสัญญากับนักเตะที่อายุต่ำกว่า 18 ปีได้

ข้อนี้เป็นเรื่องสำคัญสำหรับเคสนักเตะที่เรากำลังจะรีวิวนี้ ซึ่งจริงๆแล้วหมอนี่ต้องใช้ทั้งสองเกณฑ์ คือเรื่องของWork Permit ด้วย และเรื่องของ "อายุ" ด้วย เพราะว่ากฎดังกล่าวกำลังจะเริ่มนำมาใช้ในวันที่ 1 มกราคม 2021 นี้ ดังนั้น แมนยูไนเต็ดจึงต้องเร่งกระบวนการปิดดีลให้เร็วก่อนจะถึงเดดไลน์ที่ว่า

ไม่ใช่ว่ารีบซื้อเพราะปีใหม่จะซื้อไม่ได้นะ เพราะหมอนี่อายุ "19 ปี" ไม่ได้ติดข้อห้ามเซ็นนักเตะต่ำกว่า18อยู่แล้ว และแถมติดทีมชาติ และลงเล่นให้สโมสรต้นสังกัดมากพอควร

แต่ที่แมนยูรีบปิดดีลน่าจะเป็นเพราะว่า ไม่ให้โควตาการซื้อนักเตะต่ำกว่า21ปีนั้น ถูกใช้ในดีลนี้ไป 1ใน3ตัวของหน้าหนาว(จากทั้งหมด6) เพื่อที่ทีมจะได้เหลือโควตาไปซื้อนักเตะอายุน้อยๆในรายอื่นได้

ส่วนตัวที่ต่ำกว่า18ปีเลิกฝันไปได้เลย เพราะกฎจะห้ามแล้ว

และเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา ทั้งหมดทั้งมวลนี้จึงเป็นจุดเริ่มต้นที่ว่า ทำไมแมนยูจึงดู "รีบ" อะไรขนาดนั้นในการเซ็นดาวรุ่งฝีเท้าดีเข้ามารัวๆ ก็เพื่อการนี้นั่นแหละ ไม่ให้มันไปเบียดบังโควตาการซื้อที่จะเริ่มบังคับใช้ในอีกไม่กี่วันข้างหน้านี้

และนี่คือนักเตะที่กำลังจะเปิดตัวในอีกไม่ช้า ถ้ารถผ้าป่าไม่คว่ำ เพราะสื่อจากทุกประเทศยืนยันตรงกันแล้ว

เขาคือ กลางรับวัยรุ่นตัวใหม่ที่จะเข้ามาเติม"พลังงานแห่งอนาคต" ให้กับแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด

เขาคือ "Moisés Caicedo" และนี่คือรีิวิวว่าที่กลางรับตัวแทนมาติช (หรืออาจจะป็อกบา) ในอนาคตระยะยาวของทีม

1.ข้อมูลทั่วไป

Moisés Caicedo

อายุ : 19 ปี / สัญชาติ เอกวาดอร์

ส่วนสูง : 178 cm

เท้าที่ถนัด : ขวา

Market Value : 1.2 ล้านยูโร

ตำแหน่ง : มิดฟิลด์

ต้นสังกัดปัจจุบัน : Independiente del Valle

2. บทบาทและสไตล์การเล่น

เอาจริงๆเลยตามธรรมชาติของมอยเสส ไกเซโด้ คือ "Central Midfielder"(CM) เล่นมิดฟิลด์ตัวกลางเป็นหลัก เล่นในroleถนัดสไตล์ "Box to Box Midfielder"

ซึ่งก็อย่างที่เราทราบกันดีว่า B2B คือมิดฟิลด์ที่สามารถเติมเกมได้ทั้งรุกและ รับขึ้นสุดลงสุดให้กับทีมได้ทั้งสองมิติ ถ้านึกไม่ออกว่าตัวนี้ บทบาทหน้าที่ถนัดเหมือนใครในทีม มันก็ตรงกับ "Scott McTominay" ที่เพิ่งอวยกันไปในบทความที่แล้วนี่แหละ เอาจริงๆตัวนี้เล่นหน้าที่คล้ายๆแม็ค

แต่ว่าสไตล์ไม่เหมือนกัน

ตำแหน่งอื่นๆที่ไกเซโด้เล่นได้นั้นคือ DM ที่เด่นๆ ส่วน AM ก็เล่นได้ แต่จะไม่ใช่กลางรุกแบบบรูโน่ ไม่ใช่ Playmaker ถ้าจะเป็นก็คงเป็น Attacking Midfielder เหมือนน้องแม็ค ที่จะมีมิติการเล่นหลักๆอยู่ในพื้นที่กลางสนาม มีมิติความเป็นมิดฟิลด์ มากกว่าที่จะเป็นตัวรุก (อย่างบรูโน่นี่ค่อนไปทางความเป็นAttackerมากกว่าMidfielderนะ)

สิ่งที่น่าสนใจคือ แม้จะบอกว่า ไกเซโด้เล่นCMเป็นหลัก แต่ตำแหน่งที่ผู้เขียนคิดว่า เขาเหมาะมาก และจุดเด่นที่มีจะทรงพลังมากที่สุด ก็ตอนที่หมอนี่เล่น "Defensive Midfielder" (DM) แท้ๆด้านหลัง ที่คอยปัดกวาดอยู่หน้าแผงเซ็นเตอร์แบ็ค จะเหมาะมากๆ

แฟนแมนยูคนไหนที่รอคอย "กลางรับ" จ๋าๆมาเสริมทีม ตัวนี้แหละ มาแล้ว

3. สกิลและจุดเด่นที่สำคัญ

กองกลางทีมเราตอนนี้ ใช้เป็นกลางคู่ก็จริง แต่ทั้งแม็คเฟร็ดสองคนเอาจริงๆไม่มีใครเป็นมิดฟิลด์ตัวรับเลย เพียงแค่ใช้ความขยันของเฟร็ด + พลังทำลายสายกายภาพของแม็คมาช่วยกันวิ่งไล่บอลเล่นเกมรับเท่านั้น  แต่สำหรับ มอยเสส ไกเซโด้ นี่คือ กลางรับแท้ๆที่สามารถ ยืนคนเดียวได้ และนี่คือสกิลที่เขามี

3.1 Tackle

จุดเด่นด้านนี้ผมขอยกให้เป็นสิ่งที่เรียกว่า "ไฮไลท์" ระดับน่าตื่นเต้นมากเลย เพราะอย่างที่แฟนผีรู้กันดีว่า ทีมเรามีปัญหาเรื่องการสกรีนเกมรับหน้าแผงหลังค่อนข้างมาก เพราะยังไม่มีใครที่เล่นเป็นตัว "ทำลายเกม" คู่แข่ง แบบจริงๆจังๆเลย ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นสายถอย ดักทาง หรือถ้าเขาก็คือไม่ได้เข้าบอลให้ขาด แม็คเฟร็ดมาติชจะใช้การวิ่งไล่ บังทาง เป็นหลัก

แต่ไม่มีใครมี"นิสัยการเล่น" ที่ชอบการเข้าบอลไปทำลายเกมของคู่ต่อสู้

Moises Caicedo คือมิดฟิลด์ที่มีจุดเด่นที่สุดในการเข้าแทคเกิลใส่คู่ต่อสู้ เจ้าหมอเกมรับนั้นเล่นแบบ "สกัดบอลขาด" ของแท้ ถ้าใครนึกไม่ออก ให้นึกถึงการเล่นป้องกันของพวกเซ็นเตอร์แบ็คสาย "Stopper" ที่จะเข้าหนัก เข้าทั้งตัว เพื่อที่จะตัดบอลของคู่ต่อสู้ให้มันขาดและเคลียร์ออกไปจากแอเรียอันตราย ซึ่งกลาง2ตัวอย่างแม็คเฟร็ด และคู่CBอย่าง ลินเดอเลิฟแมกไกวร์ 4คนนี้ไม่มีใครที่มีนิสัยกล้าและชอบแทคเกิลเลย จะมีก็นู่น "อารอน วานบิสซาก้า" เพียงคนเดียวในทีม ในบรรดานักเตะตัวจริงขณะนี้ที่กล้าเข้าบอล และเข้าบอลขาดๆเช่นนี้

ส่วนคนอื่นๆที่เรามีให้เห็นเป็นตัวอย่าง ก็ง่ายๆเลย มันคือเกมรับของ "เอริค ไบญี่" กับ "มาร์กอส โรโฮ" นั่นเอง

ซึ่งลักษณะการเล่นของไกเซโด้เวลาเข้าสกัดบอล ผมว่ามันทำให้เราแฟลชแบ็คไปถึงลูกเสียบของโรโฮมากๆในสไตล์นักฟุตบอลอเมริกาใต้ คือเล่นถึงลูกถึงคน ไม่มาสุภาพเรียบร้อยอะไรมากมาย แต่ก็ไม่ได้จะเล่นนอกเกม เน้นความหนัก ความ"กล้า"ในการเล่นเกมรับแบบไม่กลัวเจ็บ

ลูกแทคเกิลของไกเซโด้เนี่ยแหละ คืออาวุธไม้ตายสำคัญของเขาเลย เหมือนการยกเอา "สเปียร์แทคเกิล" ของอารอนวานบิสซาก้า กับ "ลูกเสียบโรงบาลสั่ง" ของโรโฮไบญี่ เอามาวางเป็นแนวตั้งรับเอาไว้หน้าแผงหลัง สกรีนงานให้ลินเดอเลิฟแมกไกวร์ ยังไงยังงั้น

ปัจจัยสองอย่างที่เป็นส่วนช่วยให้สกิลแทคเกิลนี้ของเขาเด่นนั้น อย่างแรกคือ "การตัดสินใจ" ที่เฉียบขาดมากๆของไกเซโด้เวลาเล่น สังเกตได้เลยคือน้องจะไม่มีลังเล เข้าเป็นเข้าเลยทันทีในทุกๆครั้งที่มีโอกาส ดังนั้นเกมรับของเขามันจึงค่อนข้างฉับไวและขัดจังหวะคู่ต่อสู้ได้ดีมากๆ หลายๆครั้งไปแย่งมาจากเท้าแล้วกลับมาเล่นต่อได้อีก

การตัดสินใจนี่จริงๆแล้วเป็นตัวการสำคัญที่ทำให้เขาถือว่าเข้าแทคเกิลเก่งเลยล่ะ

ส่วนปัจจัยอย่างที่สอง คือ "ความแข็งแกร่งทางกายภาพ" มอยเสส ไกเซโด้ มีจุดเด่นทางด้านร่างกาย ที่มีความแข็งแกร่งในสายPhysicalที่ดีเลย คือร่างกายไม่แพ้ใครแน่ ส่วนสูง 178cm ก็อยู่ในระดับที่พอดีๆ ไม่ได้เตี้ยเสียเปรียบใคร แต่ที่น่าสนใจคือ หน่วยก้านของน้องมันดูดีมาก ทรงร่างกาย หุ่น มันดูสมส่วน ความยาวของขา ดูจะยาวและใช้การในการเสียบบอลได้เปรียบ และในด้านของเกมปะทะร่างกายก็สามารถเล่นบอลบู๊ได้

รับมือลูกหนักๆในอเมริกาใต้ไหว น่าจะมาอยู่ในพรีเมียร์ลีกสบายๆ เพราะดูเหมือนหมอนี่จะชอบเล่นซีนบู๊เหลือเกิน กี่คลิปๆก็จะมีแต่ภาพของไคซีโด้ล้มลุกคลุกคลานเพราะว่า "บวก" กับคู่แข่งแทบทุกนัดเวลาแย่งบอล

ดังนั้นจุดเด่นในด้านแทคเกิลดีมาก นั่นแปลว่า นี่คือมิดฟิลด์ที่จะสร้างเกมรับให้กับทีมได้ดีมากๆแน่นอน

3.2 "สปีด"

อันนี้เป็นจุดเด่นที่สำคัญมากพอๆกับเรื่องแทคเกิลเลย นี่คือมิดฟิลด์ที่มีความเร็วและความคล่องสูงมากๆ อยากให้ผู้อ่านไปหาคลิปของเขาดูเองที่จะแนบเอาไว้ให้ท้ายบทความ

ไกเซโด้ เป็นนักเตะที่มีความเร็วมากๆ เวลาตัดบอลได้ และกระชากบอลขึ้นหน้าจากแนวหลังนี่ เห็นปราดเดียวรู้เลยว่า

"เชี่ย นี่มันเข้าแก๊ปบอลโซลชามากๆ"

มันคือการใช้"ความเร็ว"เล่นงานคู่ต่อสู้ นี่คือบอลของโซลชาที่เน้นสปีด และนี่หากว่าใช้งานไคซีโด้ลงสนามอีก จะกลายเป็นว่ามีมิดฟิลด์สายสปีดอีกคนนึง ลงไปวิ่งเล่นเกมโต้กลับให้กับทีมได้อีกหนึ่งตัว เติมขึ้นหน้าไปช่วยสวนได้เต็มๆ เพราะน้องสามารถพลิกบอลและกระชากสวนกลับได้ดีมากๆ ไปกับบอลโคตรดีเลย (ถึงได้ไม่ค่อยกล้าเขียนเต็มๆว่าหมอนี่คือกลางรับ เพราะสกิลรุกดีจริงๆ)

หรือถ้าจะไม่พาบอลไปกับตัว ก็สามารถวางบอลยาวขึ้นหน้าได้เช่นกัน

การเล่นในพื้นที่ตรงกลางสนาม ไคซีโด้มีความเร็วและ "ความคล่องตัว" สูงมากๆ ที่จะพลิกบอล หรือครองบอลเลี้ยงหลบกินตัวคู่แข่งด้วยตัวเองได้ เพราะมีเชิงบอล ผสมกับความคล่องตัว ทำให้เขาดูจะเป็นมิดฟิลด์ตัวต่ำที่ "พริ้ว" กว่าปกติ

นี่แหละ มันจึงเป็นเหตุผลของการขึ้นหัวเรื่องบทความนี้ว่า เขาคือ "เกราะไฟสายสปีด" มันคืออิมเมจของเขาเวลาที่เราเห็นเล่นในสนามเลย นี่คือมิดฟิลด์ที่เล่นเกมรับได้ดีมากๆประหนึ่งเป็นเกราะไฟ ที่จะป้องกันและเข้าแทคเกิล เผาผลาญคู่แข่งให้กับทีม แต่ในขณะเดียวกันก็เป็นเกราะที่มาพร้อมกับความเร็วด้วย ไม่ใช่ช้าเป็นเรือเกลือ ซึ่งตอนนั่งดูคลิปเช็คฟอร์มการเล่นของเขา ผมค่อนข้างตื่นตาตื่นใจในความเป็นกลางรับที่มีความเร็วและความคล่องตัวสูงนะ ยิิ่งจังหวะกระชากบอลสวนกลับขึ้นหน้านี่ เหมือนเห็น "แรชฟอร์ด" กระชากบอลเลย ท่าทางการเล่น การก้าวขา ดูยังไงก็แรชฟอร์ดชัดๆ

เอาฉายานี้ไปก่อนเลย ย้ายไม่ย้ายไม่ว่ากัน "เกราะไฟสายสปีด" Moises Caicedo

3.3 ความอึดและความขยัน (Stamina & Work Rate)

โอ้โห นี่เข้าแก๊ปโซลชามากๆ นักเตะที่ผู้จัดการทีมของเราอยากได้ จะเป็นนักเตะที่มีความขยัน และมีความอึดสูงๆ ซึ่งจะสามารถนำเอา"ปริมาณการเล่น" มาช่วยทีมได้เยอะ ซึ่งในวัย19ปี ฮอร์โมนพลุ่งพล่าน กล้ามเนื้อกำลังแตกเนื้อสดเปรี๊ยะๆๆๆ ดังนั้นเรื่องความฟิตไม่ต้องห่วง หมอนี่ฟิตจัดๆ และที่สำคัญ แกขยันวิ่งด้วย เห็นวิ่งไล่ทุกลูก

ที่สำคัญคือ ชอบการเติมเกมเป็นบ้าเป็นหลังเหมือนแม็คโทมิเนย์เป๊ะๆ จนเกือบๆจะไม่สามารถพูดได้แล้วด้วยซ้ำว่าไอ้หมอนี่คือมิดฟิลด์ตัวรับ

3.4 ลูกยิงไกล

ข้อนี้ทุกสำนักล้วนแล้วแต่ยกให้เป็นจุดเด่นของนักเตะ ถามว่ามันเด่นไหม ส่วนตัวผมมองว่า "ยิงได้" คือพิจารณาในแง่ของoptionการเล่นเฉยๆว่า นี่คือมิดฟิลด์ที่เติมเกมยิงไกลให้กับทีมได้ดี ถามว่าดีแค่ไหน ที่แน่ๆดีกว่าเฟร็ดเยอะ (555) บอลยิงของมอยเสส ไกเซโด้นั้นที่น่าสนใจคือ วิถีการยิงค่อนข้างดี ยิงแล้วบอลพุ่งเป็นจรวดเลย ซึ่งถ้าเข้ากรอบถือว่ามีโอกาสลุ้นสูงมากๆ อย่าเปิดโอกาสให้ได้ยิง

แต่ถ้าจะให้บอกว่า ยิงเก่ง ยิงดีระดับไหน คงยังไม่ถึงระดับมิดฟิลด์จอมยิงไกลขนาดนั้น แต่ถือว่า "มีอาวุธบินระยะไกลติดตัว" ใช้งานได้จริง


3.5 อื่นๆ

จุดเด่นข้ออื่นๆมีกล่าวไปบ้าวแล้วเพื่ออธิบายเหตุผลประกอบในหัวข้อใหญ่ นอกจาก4ข้างต้นที่ว่า จุดดีๆของไกเซโด้ก็ยังมีเรื่องอื่นด้วยที่เป็นข้อรองๆลงมา แต่ก็ยังโดดเด่นอยู่ นั่นได้แก่

-การจ่ายบอล

สกิลpassingของCaicedoถือว่าใช้งานได้ดี ทั้งระยะใกล้และระยะไกล แถมลูกแทงคิลเลอร์พาสก็มีให้เห็น อย่างที่บอกไป ไอ้หมอนี่ก็ดูจะชอบเล่นรุกเหมือนน้องแม็คเลย แต่ว่าเด่นที่ลูกแทคเกิลอันแม่นยำมากกว่า และชอบการโจมตีจาก"แนวลึก" ลูกจ่ายของเขาจึงมีทั้ง จ่ายสั้น มีการวางบอลยาวที่แม่นยำ และมีลูกแทงทะลุช่องให้ได้เห็น

อันนี้ถือเป็นเรื่องดี เพราะเกิดมาเป็นมิดฟิลด์ถ้าจ่ายบอลไม่แม่นก็จบแล้วสำหรับตำแหน่งกลางสนาม

-ความกล้าหาญในการเล่น

อันนี้เป็นด้านmentality คล้ายๆเรื่องการตัดสินใจ คะแนนพอๆกัน สำหรับไกเซโด้จุดเด่นก็คือความกล้าหาญนั่นแหละ อย่างที่บอกว่าน้องเป็นบอลอเมริกาใต้สายบู๊ดุเดือดที่จะเข้าบอลแบบไม่กลัวเจ็บ เหมือนโรโฮเป๊ะ ซึ่งประเด็นนี้สำคัญมาก จึงส่งผลให้การเล่นของไคซีโด้นั้น เล่นเกมรับแบบทั้งตัว และพร้อมที่จะสกัดบอลทุกรูปแบบ อย่างที่ไม่กลัวเจ็บ

นี่จึงส่งผลให้เกมรับของเขาเข้าขั้นดีมากระดับเอกอุ

-ระเบียบวินัยในการเล่น

ข้อนี้พ่วงอยู่กับความขยัน มีethicsในการเล่นที่ดีระหว่างอยู่ในเกม นั่นแหละคือสิ่งที่บอลในระบบทีมต้องการ

3.6 ข้อเสียที่น่าเป็นห่วง

อันนี้แน่นอน มีจุดเด่นมันก็ต้องมีจุดที่อ่อนแออยู่บ้าง ไม่งั้นมันก็เว่อร์ไป ป่านนี้ค่าตัวไม่ร้อยล้านเท่ากับพวกซานโช่ ฟาติ พวกนั้นแล้วเหรอ เขียนซะเก่งยังกะเป็นดาวรุ่งชื่อดัง

อันนี้ต้องบอกก่อนว่า นี่คือ "เพชรเม็ดใหม่ล่าสุด" ของทวีปอเมริกาใต้ และของเอกวาดอร์ ซึ่งยังสดและเพิ่งเกิดขึ้นมาเลย ดังนั้นชื่อเสียง ชื่อชั้น อย่าเอาไปเทียบกับตัวดังที่อยู่ในสโมสรใหญ่ๆอย่างฟาติอยู่แล้ว

ถามว่าเก่งไหม ต้องบอกว่านี่คือการค้นพบ "เพชรเม็ดงาม" ที่แมนยูน่าจะถูกหวยอีกครั้ง ได้ของดีราคาถูกซึ่งเป็นระดับ "Wonderkid" คนนึงของวงการฟุตบอลอเมริกาใต้เลย

จุดบกพร่องของไกเซโด้มีอะไรบ้าง

-ลูกกลางอากาศ

ข้อนี้รวมหมด ทั้งเรื่องของการใช้หัว(heading) และการกระโดด(jumping reach) ที่ย่ำแย่ทั้งคู่ เนื่องด้วยส่วนสูง178 ที่ไม่ค่อยได้เปรียบสักเท่าไหร่ ทำให้ลูกกลางอากาศของน้องค่อนข้างที่จะเอามาช่วยทีมได้ยาก ต่างจากแม็คโทมิเนย์มากในข้อนี้ ดังนั้นต้องทำใจ ได้อย่างเสียอย่าง ใครมันจะไปดีหมดทุกด้านขนาดนั้น

-การยืนตำแหน่ง

อันนี้สำคัญเลย ในด้านของ positioning ก็ตามที รวมถึงการเล่นเวลาที่ "ไม่มีบอล" (off the ball) ด้วย ก็ค่อนข้างที่จะไม่ดีเท่าไหร่สำหรับไกเซโด้ ข้อนี้จำเป็นต้องใช้เวลาและประสบการณ์ในการสั่งสม และเพาะบ่มชั้นเชิงความฉลาดในการยืนตำแหน่งในสนาม

-บาลานซ์

ไม่รู้สิอันนี้หลายๆคนอาจจะมองไม่เหมือนกับผู้เขียน อย่างที่เห็นในคลิปน้องมันจะล้มลุกคลุกคลานบ่อยเพราะว่าเข้าเกมรับทั้งตัว มันก็เป็นข้อดี แต่หลายๆครั้งดูเหมือนว่าจะมีเสียหลักอยู่บ้างพอสมควร คือบาลานซ์ร่างกายไม่ได้เทพมาก เวลาเล่นเกมรับหนักๆก็มีโอกาสล้มบ่อย ซึ่งมันค่อนข้างอันตรายหากว่าล้มแล้วเสียตำแหน่ง ทีมในพรีเมียร์ลีกมันพร้อมโจมตีตลอดเวลาอยู่แล้วถ้าเกิดการพลาดขึ้น  เราจึงรู้สึกว่า ข้อนี้ควรจะพัฒนาขึ้นอีกนิด เพื่อให้รับกับความ"ยืดหยุ่น"(flexibility)ที่มีอยู่แล้ว

4. มาแล้วเล่นตรงไหน

อันนี้น่าจะเป็นหัวข้อที่หลายๆคนอยากอ่าน และอยากจะรู้ว่า เมื่อได้ตัวMoises Caicedoมาแล้วนั้น เราจะจับเขาลงเล่นตรงไหนได้บ้างยังไงดี ต้องบอกก่อนว่า เขาไม่ได้มาที่นี่ในฐานะตัวจริงที่จะได้ลงเล่นทันทีขนาดนั้น ในวัย19ปีนี่คือการซื้อเพื่ออนาคต แต่คิดว่ามาแล้วก็น่าจะได้อยู่ในทีมชุดใหญ่เลย

ดีไม่ดีนี่อาจจะเพื่อทดแทนการออกไปของป็อกบาเลยก็ได้

เพราะป็อกตอนนี้ก็อยู่ในสถานะตัวสำรองของทีมไปแล้ว ดังนั้นถ้าป็อกออก และทดแทนด้วยไคซีโด้ เจ้าหมอนี่ก็เหมาะจะอยู่ในสถานะตัวสำรองคอยช่วยทีมในวาระต่างๆเหมือนป็อกบานั่นเอง ผมจึงได้กล่าวว่า นี่อาจจะเป็นดีลอนาคตสำหรับปีหน้าเพื่อรอทดแทนป็อกบาเลย

แฟนผีคนไหนที่เตรียมง้างด่าบอร์ด ด่าโอเล่ว่า "ซื้อกองกลางมาถมที่อีกแล้ว ทำไมไม่ซื้อปีกขวา มึงจะบ้าเหรอ ไอ้คXายยยย" อันนี้ต้องบอกว่า ใจเย็นๆนะน้องๆหนูๆทั้งหลาย นี่คือการบริหารจัดการความเสี่ยงให้กับทีมเราในอนาคตจ้า

ด้วยสไตล์การเล่นCM แบบ Box to Box ที่มีจุดเด่นในด้านแนวรับนั้น ทำให้เราวางpositionหลักๆของ มอยเสส ไกเซโด้ได้สองจุดก็คือ มิดฟิลด์ตัวกลาง และ มิดฟิลด์ตัวต่ำ

ส่วนกลางรุก ตัดทิ้งไปได้เลย เล่นไม่ได้แน่ๆ แต่แค่เติมเกมบุกเป็นค้างคาว(ครั้งคราว) ก็พอได้อยู่

แผนการเล่นและformationที่พอจะนึกออกได้บ้างว่า จะจัดCaicedoลงไปได้ก็คือ

4.1 แผนที่สมดุลที่สุดอย่าง "4-3-3"

นี่คือแผนการเล่นที่ผู้เขียนค่อนข้างรอคอยจะให้เกิดขึ้นเหลือเกิน นั่นก็คือ 4-3-3 ซึ่งผมคิดว่า โอเล่ กุนนาร์ โซลชาเอง ก็ตั้งตารอคอยการมาของ "มิดฟิลด์ตัวรับที่สามารถยืนคนเดียวหน้าแผงหลังได้" ให้มีมาร่วมทีมอยู่นานแล้ว

เพราะถ้าเป็นเช่นนั้น เราจะสามารถเติม "มิดฟิลด์ตัวรุก" เพิ่มอีกคนนึงได้ในแผน 4-3-3 นี้

ซึ่งเอาจริงๆ ทีมเกือบๆจะไม่ต้องเปลี่ยนอะไรเลย เพราะbaseของการเล่น 4-2-3-1 ในปัจจุบันนี้เพียงแค่บิดนิดเดียวด้วยการ รวมเอา "เลข2" ที่เป็นกลางต่ำ หากว่าเปลี่ยนมาเป็นนักเตะคนเดียวที่สามารถปักหลักได้อย่างเช่น ก็องเต้ หรือ ปาร์เตย์ เราก็จะสามารถเอาตัวที่เหลือ1คนไปเพิ่มในแอเรียอื่นได้

และนั่นแหละ เป็นช่องให้เราใช้ มิดฟิลด์ที่มีสกิลรุกสูงๆ ขึ้นไปด้านบน"คู่กับบรูโน่" ได้อีกคนนึง ในทาง4-3-3 ที่มีพื้นฐานของ มิดฟิลด์ตัวรับหนึ่งคน และมิดฟิลด์ตัวรุกด้านหน้าสองคน

ถ้าใครนึกไม่ออกก็บอลน้ามูนั่นแหละ ไม่งั้นก็ทรงที่เลสเตอร์เคยใช้แมดดิสัน เล่นคู่กับมิดฟิลด์อีกคนในแดนกลางก็ได้

และเมื่อใดก็ตามที่ทีมีกลางรุกสองคน ปัญหาของแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดชุดนี้ที่ศาลาผีบ่นมาตลอด เรื่องของเวลาเกมตื้อตัน ถ้าบรูโน่เล่นไม่ออก เพราะไม่มี "ตัวสร้างสรรค์เกมรุกคนอื่นๆ" นั้น ปัญหานี้จะหมดไปทันที เพราะเมื่อใดก็ตามที่บรูโน่ลงสนามแล้วมีเพลย์เมคเกอร์คนอื่นๆช่วย ไม่ว่าจะป็อกบา มาต้า ฟานเดอเบค หรือแม้กระทั่ง ล่าสุด สก็อตต์ แม็คโทมิเนย์ในสภาวะของการเป็น "สแตนด์ของพอล สโคลส์" ก็สามารถเติมขึ้นมาสร้างสรรค์เกมรุกได้เช่นกัน (2ประตู 1แอสซิสต์ และการพาบอลขึ้นหน้าอีกนับครั้งไม่ถ้วน คือคำตอบดังกล่าว)

และเมื่อเป็นเช่นนั้น 3แนวรุกด้านหน้าในแผน 4-3-3 จะยิงกระจุยแน่นอน ด้วยกองหน้าตัวเป้า ปีกซ้าย และปีกขวาที่หากว่าได้ตัวจั๋งๆในอนาคตมาลงในแผนนี้ รับรองว่า สามประสานโหดๆในตำนานจะเกิดขึ้นมาเหมือนทีมที่คว้าแชมป์ถ้วยใหญ่ของโลกได้แน่ๆ

4-3-3 คือแผนแรกที่แว้บเข้ามาในหัวทันทีที่เห็นข่าวว่า มอยเสส ไกเซโด้ กำลังจะได้มาร่วมทีม

4.2 แผนพื้นฐานปัจจุบันของโอเล่

ที่แมนยูใช้อยู่ เขาสามารถมาลงเล่นได้หมด ไม่ว่าจะเป็น 4-2-3-1 นี่ก็ลงมาเล่นได้ โดยสามารถจับคู่กับ "เฟร็ด" ได้ทันที ในยามที่สก็อตต์ แม็คโทมิเนย์เจ็บไป  ความสามารถในการเป็นBall-Winningของ Caicedo จะสามารถช่วยสอดประสานและเล่นแทนแม็คโทมิเนย์ได้ทันที อย่างที่เกริ่นไว้ตั้งแต่หัวบทความว่า เขาแทบจะไม่ต่างจากแม็คเลยในบทบาทหน้าที่B2Bสายทำลายล้างเกม

ไม่ว่าแผนไหนที่ใช้กลางคู่ จะ 4-2-2-2, 4-3-1-2  ไกเซโด้สามารถยืนกลางตัวต่ำได้หมด

4.3 "Real Diamond"

ส่วนในแผน 4-4-2 Diamond ตัวนี้สามารถยืนได้ทั้ง "เหลี่ยมเพชรด้านข้าง" 2ตัวก็ได้ แต่ส่วนตัวผมเชียร์ให้ยืน "เพชรเหลี่ยมล่าง" ของแผนไดมอนด์เลย

ตัวนี้แหละที่จะเข้ามาแล้วสร้างให้เกิด"เพชรแท้" Real 4-4-2 Diamond ได้จริง ซึ่งเป็นแผนที่ยึดโยงกับการมี กลางรุก1 และกลางรับ1 แบบเน้นๆ

5. Passion ความฝัน และก้าวย่างครั้งยิ่งใหญ่

สิ่งที่น่าสนใจนอกเหนือจากในเชิงฟุตบอลดังที่กล่าวมา4หัวข้อแล้วนั้น เรื่องอื่นๆสำหรับ Moises Caicedoนี่ต้องบอกว่า เขามีรุ่นพี่ที่เคยมาสร้างผลงานโดดเด่นในโอลด์แทรฟฟอร์ดมาแล้วโดยตรง นั่นก็คือ ปีกรถด่วน "Antonio Valencia" ซึ่งเป็นไอดอลของนักฟุตบอลทีมชาติเอกวาดอร์นั่นเอง ซึ่งเขาก็ทำงานหนักเหมือนวาเลนเซียเช่นกัน เล่นฟุตบอลอย่างหนัก เตะบอลข้างถนนกับเพื่อนๆ จนกระทั่งอายุ13 Independiente del Valle ที่เมืองกีโต้ เห็นแววและพาเข้ามาเซ็นเป็นนักฟุตบอลในที่สุด

ปัจจุบันนอกจากลงสนามให้ต้นสังกัดไปแล้ว 31 นัด ทำได้6ประตู 2แอสซิสต์ และติดทีมชาติชุดใหญ่เอกวาดอร์ไป 4นัดแล้ว ทำได้1ประตู อันนี้น่าจะเป็นสถิติที่ทำให้หลายๆคนสบายใจว่า ไม่ได้โดนหลอกขายของปลอมมาแน่นอน เพราะนี่ดีกรีตัวจริงทีมชาตินาจา

ส่วนไอดอลนักฟุตบอลในปัจจุบัน พอทราบเรื่องแล้วไม่แปลกใจเลยว่า สไตล์การเล่นของเขาทำไมถึงเป็นอย่างนั้นที่เขียนมา เพราะเจ้าหนูไกเซโด้นั้นชื่นชอบ "N’Golo Kante" กับ "Paul Pogba" สองนักเตะกองกลางฝรั่งเศสสายรุก-รับ คู่นี้มากๆ (มิน่าหมอนี่ถึงเล่นทั้งรุกรับ เอาสไตล์ของก็องเต้กับป็อกบามารวมกันคนละอย่างนี่เอง) เขาบอกว่า เขาชื่นชอบการสู้เพื่อทีมของก็องเต้ และชอบสไตล์แบบป็อกบามาก

จะบอกว่า การเล่นของ Moises Caicedo เป็นส่วนผสมของ Pogba กับ Kante ก็ว่าได้

และที่สำคัญเหนือสิ่งอื่นได้ ไอ้เด็กคนนี้มันเป็นแฟนผี!!!

สโมสรในความฝันของMoises Caicedoที่เปิดเผยผ่านการให้สัมภาษณ์กับสื่อก็คือ "Manchester United" แบบเต็มๆ และชื่นชอบความรวดเร็วในภาคการเล่นของพรีเมียร์ลีกด้วย

ดังนั้น เมื่อทุกสิ่งทุกอย่างมันเข้าแก๊ปขนาดนั้น ทั้งเรื่องที่นักเตะมีใจ การเป็นดาวรุ่งเพชรเม็ดงามคนใหม่ที่เพิ่งถูกค้นพบ ซึ่งน่าจะย้ายมาด้วยค่าตัวราว 4.5ล้านปอนด์ ซึ่งก็ไม่ได้แพงอะไรเลย เมื่อดูจากราคาประเมินของตลาดที่ 1.2ล้านยูโร เป็นของดีราคาถูกและน่าจะซื้อมาเพื่ออนาคตยาวๆแน่ เพราะนักเตะเองก็ชื่นชอบแมนยูไนเต็ดเช่นกัน

ขอให้ดีลนี้เป็นไปได้ด้วยดีและเปิดตัวในเร็ววันอย่างไม่มีอะไรผิดพลาด เราจะได้เด็กนรกในแดนกลางมาปั้นแบบมีแววเพิ่มอีกหนึ่งคนแน่นอน จะได้ไม่ต้องไปง้อซื้อจากสโมสรอื่นเป็นร้อยๆล้านๆให้เขาโขกสับค่าตัวได้เหมือนกับที่เกิดขึ้นในบางเคส

การดำเนินงานแต๊บเด็กดาวรุ่งอายุน้อยมีแววของสโมสร ทำมาเรื่อยๆอย่างต่อเนื่อง จนตอนนี้ทีมแห่งอนาคตที่เป็นทีมสำรอง ชุดU-23 หลายๆคนดูมีแววมากๆ และมีครบแทบทุกตำแหน่งเลย ไม่ว่าจะกลางรับที่ก็ยังมี ดีแลน เลวิทท์ กับ เจมส์ การ์เนอร์ ที่ส่งไปเก็บเวลอยู่ 

แดนหลังมีเมนจี้ รวมถึงแลร์ด และ แบรนดอน วิลเลียมส์ แถมยังแบ็คคู่สเปนคูราโด้ กับเฟร์นานเดซอีก

กลางรุกก็แน่นอน ฮันนิบาล เมจ์บรี กับ อาร์โน พิกมอล รอขึ้นไปสมทบกับกองหน้าที่มีกรีนวู้ดรออยู่แล้ว รวมถึงปีกตัวรุกอย่าง  อีแลงก้า ที่กำลังตะลุยเล่นคู่กับ "ฟาคู" ฟากุนโด้ เปยิสตรี้ และยังมี อาหมัด ดิยาโล่ ที่กำลังจะมาถึงในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า

อนาคตในช่วง5ปีข้างหน้า แค่คิดก็สนุกแล้ว

ยังไงขอให้ดีลของMoises Caicedo ลุล่วงไปได้ด้วยดี ถ้ารถผ้าป่าไม่คว่ำซะก่อนเพราะถ้าไม่มีมูล หมาคงไม่ขี้ไม่มีข่าวแน่ๆ สื่อก็รายงานตรงกันขนาดนี้ อย่างน้อยๆเซ็นมา5ปี ราคาถูกเหมือนได้เปล่า แต่อันที่จริงซื้ออนาคตระยะยาวเป็น10ปีได้ ถึงจะหว่านมาแล้วดับ ไม่เกิด สโมสรก็ไม่ได้เสียหายอะไรนัก จ่ายค่าเหนื่อยฟรีๆให้นักเตะบางคนยังเยอะกว่านี้เลย เพราะงั้นพลาดก็ไม่มีอะไรเสียหาย

ซื้อมา10 สวยซะ 2 ก็คุ้มแล้ว!

-ศาลาผี-

References

https://www.transfermarkt.com/moises-caicedo/profil/spieler/687626

https://www.whoscored.com/Players/393268/Show/M-Caicedo

https://www.youtube.com/watch?v=ue0p3F0AX1k

https://www.youtube.com/watch?v=8YdvlefuDRs

https://www.youtube.com/watch?v=y2_qocv9bkE

ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด