ศุภศักดิ์ สารภี (บีจี ปทุม ยูไนเต็ด)
นี่คือปีที่น่าจดจำของเขา หลังทะลุขึ้นมาเล่นในชุดใหญ่ช่วงเกิดโควิด-19 สำหรับ "แฮ่ม" ศุภศักดิ์ สารภี จากการเห็นฟอร์มของ "โค้ชโอ่ง"ดุสิต เฉลิมแสน ในการเล่นตำแหน่งกองกลางให้กับ ราชประชา พันธมิตรในไทยลีก 3 จนก้าวมาเป็นกองหนุนของ สหรัฐ ปองสุวรรณ ในตำแหน่งแบ็คซ้าย
เขาถูกส่งลงสนามในเกมที่เปิดบ้านเจอกับ สุพรรณบุรี เอฟซี และในนาทีที่ 24 เขาก็ได้รับบอลจาก สารัช อยู่เย็น ก่อนกระชากบอลหลบผู้เล่น 2-3 คนเข้าไปกดด้วยซ้ายลอดขา แพทริค เดย์โต้ เข้าไปแบบสวยงาม เป็นประตูที่สองของทีม ก่อนจบด้วยชัยชนะของ บีจี ปทุม ยูไนเต็ดในบ้านไปแบบถล่มทะลาย 4-0
จุดเด่นของหมอนี่นอกจากมีเท้าซ้าย ที่คล่องและว่องไวดั่งตีนตะขอแล้ว ยังสามารถพาบอลไปข้างหน้าด้วยความเร็วได้อีกด้วย สเต็ปต่อไปคงเป็นเรื่องของการเก็บประสบการณ์และความมั่นใจให้เพิ่มมากกว่านี้
ณัฐวุฒิ สุขสุ่ม (ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด)
ต้นซีซั่นเขากล้ารับแรงกดดัน ด้วยการขอใช้เบอร์ 14 แทนที่รุ่นพี่อย่าง "ลีซอ" ธีรเทพ วิโนทัย ที่หมดสัญญากับทีมอย่างถาวร นั่นทำให้หลายสายตาเหวี่ยงมาที่ดาวยิงวัย 23 ปี ว่าจะสามารถสร้างผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมมากแค่ไหน หลังไปฝึกวิทยายุทธ์กับ เอฟซี โตเกียว ยู 23 มา 1 ฤดูกาล
ซึ่งดูเหมือนว่าจะได้ผล เพราะตั้งแต่ยุค มาโน่ โพลกิ้ง ก่อนตกมาถึงมือ "โค้ชแบน" ธชตวัน ศรีปาน ณัฐวุฒิ สุขสุ่มยังถูกเลือกใช้บริการในการออกสตาร์ทเป็นตัวจริงเสียเป็นส่วนใหญ่ และเขาก็ตอบแทนผลงานด้วยการซัดไป 11 ประตูในไทยลีก จาก 28 แมตช์ที่ผ่านมา
เรียกว่าเวลานี้เขาเองก็กำลังขับเคี่ยวดาวซัลโวคนไทยกับ ฟิลิป โรลเลอร์ แบ็คขวากัปตันทีมของ ราชบุรี มิตรผล เอฟซี อย่างสนุกกันเลยทีเดียว
วัฒนากรณ์ สวัสดิ์ละคร (เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด)
ถูกวางให้เป็นตัวแทนของ ธีราทร บุญมาทัน ตั้งแต่ปี 2019 นับจากที่แบ็คซ้ายทีมชาติไทย โบยบินไปเล่นให้กับ โยโกฮามา เอฟ มารินอส ทว่า "อาร์ต" กลับไม่สามารถยึดตัวหลักได้ แถมยังเล่นแบบไม่มั่นใจตัวเอง นั่นทำให้ "กิเลนผยอง" จำเป็นต้องไปดึงดาวเตะฟิลิปปินส์อย่าง ไดซึเกะ ซาโตะ เข้ามา
อย่างไรก็ตามปี 2020 วัฒนากรณ์ สวัสดิ์ละคร ได้พัฒนาตัวเองขึ้นมาอย่างมาก โดยเฉพาะลูกเปิดจากริมเส้นที่คมกริบ กระทั่งเขายึดตัวหลักได้อย่างเหนียวแน่นในยุคของ มาริโอ ยูรอฟสกี้ ขึ้นมากุมบังเหียน อาจจะเรียกได้ว่าเป็นตัวเลือกเบอร์ 1 ของตำแหน่งแบ๊คซ้ายก็ว่าได้
เวลานี้เขาอาจจะขาดเพียงอย่างเดียว ก็คือ การยิงประตูจากฟรีคิกเหมือนกับไอดอลของเขา แต่ด้วยอายุที่ยังน้อย ดูแล้วมีโอกาสอีกมากมายที่เลเวลจะอัพมากกว่าเดิมแน่นอน
โชติภัทร พุ่มแก้ว (สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด)
การเข้ามาอยู่ในรั้ว "กว่างโซ้งมหาภัย" พร้อมกับ เอกนิษฐ์ ปัญญา อาจจะสวนทางกันในเรื่องก้าวไปเล่นทีมชุดใหญ่ รวมไปถึงการติดทีมชาติไทย แต่ปีนี้ถือว่า สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด ตัดสินใจได้อย่างยอดเยี่ยม หลังจากมองว่า โชติภัทร พุ่มแก้ว ในวัยย่าง 23 ปีสุกงอมเกินกว่าจะให้ทีมไหนยืมตัวอีกแล้ว
"จ๊อบ" เป็นหนึ่งในกราบขวาที่ทีมมักจะถูกเลือกใช้งานเป็นเบอร์ต้นๆ ถ้าไม่นับการมาของ วสันต์ ฮมแสน ในเลกสอง ที่มีอ๊อฟชั่นขยับเข้าไปเล่นเป็นเซนเตอร์ฮาล์ฟได้
หากมองจากองค์ประกอบการขึ้นเกมทางฟูลแบ็คของพลพรรค "กว่างโซ้ง" ต้องบอกว่า นี่คืออีกแข้งระดับพรีเมี่ยม ที่สามารถทำเกมบุกจนประทับใจแฟนบอล แถมยังซัดไปแล้ว 3 ประตู จนมีชื่อติดทีมชาติไทยชุดใหญ่ อย่างไรก็ตามช่วงนั้นเขาต้องถอนตัวเพราะว่าอาการบาดเจ็บเล่นงานก่อนจะลงอุ่นเครื่องกับสโมสร นครปฐม เอฟซี เมื่อวันที่ 10 ต.ค.2020
กนกพล ปุษปาคม (โปลิศ เทโร เอฟซี)
นี่คือเพชรล้ำค่าของ "มังกรโล่ห์เงิน" หลังจากเขาเข้ามาอยู่กับทีมตั้งแต่ระดับเยาวชน จากนั้นพัฒนาตัวเองขึ้นมาอยู่ชุดสำรอง และในปี 2019 ในช่วงที่ผู้เล่นตำแหน่งกองกลางของทีมพากันบาดเจ็บ "โค้ชอ้น" รังสรรค์ วิวัฒน์ชัยโชค กุนซือใหญ่ของทีมจึงดันเขามาเล่นแบบเต็มตัว ในฐานะมิดฟิลด์ห้องเครื่องที่มีส่วนสำคัญของทีมอย่างมากในศึกไทยลีก2
ในปีนั้นเขาสามารถพา โปลิศ เทโร เอฟซี จบซีซั่นด้วยการเลื่อนชั้นกลับมาสู่ไทยลีกในฐานะรองแชมป์ แน่นอนว่ายิ่งทำให้ชื่อเสียงของเขาขจรไปไกลมากๆ จนได้มาฟาดแข้งในลีกสูงสุด ยิ่งทำให้ทุกคนได้เห้นว่า DNA ของ "คุณพ่อแต๊ก" อรรถพล ปุษปาคม ในการเป็นกองกลางระดับมันสมอง ไม่ได้หายไปจากสายเลือดของเขาเลย
การคุมจังหวะอย่างใจเย็น พลางเปิดบอลสวนจากรับมาเป็นรุกที่รวดเร็ว ในวัยเพียง 21 ปี "บอส" คือฟันเฟืองชิ้นสำคัญที่ลงตัวอย่างมาก
อนนต์ สมากร (นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี)
อีกจิ๊กซอว์ในแดนกลางของโคราช ที่เรียกได้ว่าจะมีส่วนสำคัญในยามครึ่งหลัง เมื่อ "โค้ชโจ"ธีระศักดิ์ โพธิ์อ้น ต้องการความสมดุลระหว่างเกมรับและรุก ก็มักจะให้อดีตเพลงแข้งโครงการฟ็อกซ์ฮันท์ รุ่น 1 ลงไปประจัญบานทันที
ความขยันที่มีอยู่แล้ว บวกกับความมุ่งมั่นที่ต้องการลงช่วยทีม นี่คือสิ่งที่ยอดทีมจากอีสานได้เพชรเม็ดงามเห็นได้จาก "โบ๊ต"อนนท์ สมากร แข้งวัยย่าง 23 ปี ซึ่งเป็นฟันเฟืองที่ช่วยให้แผงมิดฟิลด์ของ "สวาดแคท" ไม่ได้ลดความแข็งแกร่งลงเลย ยามที่เขาลงสู่สนาม
ฉัตรมงคล เรืองรณโรจน์ (ชลบุรี เอฟซี)
ช่วงโควิด-19 ซาลงในรอบแรก ชลบุรี เอฟซี ดัน 4 แข้งอคาเดมีฉลามชล ขึ้นมาซ้อมกับทีมชุดใหญ่ ไม่ว่าจะเป็น ชาญณรงค์ พรหมศรีแก้ว, ทรงชัย ทองฉ่ำ, พงศกร ตรีสาตร์ และ ฉัตรมงคล เรืองฐณโรจน์ ปรากฏว่า "โค้ชเตี้ย"สะสม พบประเสริฐ ส่งพวกเขาลงสนามทั้งหมด
แต่คนที่โดดเด่นมากที่สุดจนไปกระแทกใจ อากิระ นิชิโนะ ขึ้นไปสู่ทีมชาติไทย ชุดใหญ่ คงจะหนีไม่พ้น "นาย" ฉัตรมงคล เรืองรณโรจน์ แบ๊คซ้ายที่เติมเกมอย่างสนุก และช่วยแนวรับอย่างทันที ถึงขนาดที่แฟนบอลพันธุ์แท้ของทีมหลายคน ตั้งให้เป็น "ณัฐพงษ์ สมณะ คนใหม่" เลยทีเดียว
ด้วยพละกำลังที่มีอยู่ในตัวเอง รวมทั้งไม่เคยกลัวคู่แข่งแม้ว่าจะมีประสบการณ์สูง หรือว่าชื่อสียงจะใหญ่เพียงใด เขาเองก็รับมือได้อย่างหมดจด เรียกได้ว่ามีอนาคตที่สดใสรออยู่เหมือนกัน เพราะอย่าลืมเด็ดขาดว่าเขาเพิ่งอายุเพียง 18 ย่าง 19 เท่านั้นเอง
