:::     :::

อดอล์ฟ ฮึทเทอร์'นายคนใหม่ของแฟร้งค์เฟิร์ต'

วันพฤหัสบดีที่ 15 เมษายน 2564 คอลัมน์ เล่าเก่าก้าวใหม่ โดย Latino
1,196
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
อดอล์ฟ ฮึทเทอร์ กุนซือชาวออสเตรียนของ แฟร้งค์เฟิร์ต ตอบรับสัญญา 3 ปีย้ายมารับตำแหน่งนายใหญ่คนใหม่ของ มึนเช่นกลัดบัค ในช่วงซัมเมอร์นี้

นับจาก มาร์โก โรเซ่อ โค้ชวัย 44 ปีตัดสินใจย้ายไปรับทำงานกับ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ในซีซั่นหน้าเมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา นั่นทำให้ โบรุสเซีย มึนเช่นกลัดบัค ต้องเสาะหาเทรนเนอร์คนใหม่มาตั้งแต่นั้น 

มึนเช่นกลัดบัค สร้างความฮือฮาในเวลาต่อมาหลังตกเป็นข่าวว่าพวกเขาทาบทาม ชาเบียร์ อลอนโซ่ อดีตมิดฟิลด์ทีมชาติสเปนมารับงานต่อจาก โรเซ่อ ก่อนอดีตแข้งวัย 39 ปีจะตกลงขยายสัญญาอีกหนึ่งปีกับ เรอัล โซเซียดาด ทำงานฐานะเทรนเนอร์ของ เรอัล โซเซียดาด เบ ไปจนถึงช่วงซัมเมอร์ปี 2022 

ผ่านมาราวหนึ่งเดือน มักซ์ เอเบิร์ล ผู้อำนวยการฝ่ายกีฬายืนยันว่าทีมสิงห์หนุ่มบรรลุข้อตกลงกับ อดอล์ฟ หรือ อาดี้ ฮึทเทอร์ ด้วยสัญญา 3 ปีและกุนซือ แฟร้งค์เฟิร์ต จะย้ายมารับงานหลังจบฤดูกาลนี้ 

'เรามีความสุขมากที่ อาดี้ ฮึทเทอร์ ตอบรับ' เอเบิร์ล เปิดเผย 'สำหรับทีมของเราและสโมสรเรา เขาเป็นโค้ชดีที่สุดสำหรับความท้าทายและเป้าหมายที่รอเราอยู่ในช่วงซัมเมอร์นี้'


ส่วนกุนซือชาวออสเตรียนวัย 51 ปี กล่าวถึงการย้ายมาทำงานในถิ่น 'โบรุสเซีย-ปาร์ก' ตั้งแต่ช่วงซัมเมอร์นี้ไปจนถึงปี 2024 ว่า 'ผมไม่ได้ตัดสินใจยากนัก ผมประสบความสำเร็จอย่างไม่น่าเชื่อมา 3 ปีและปีที่เข้มข้นที่ผมอยู่กับทีมและต้องการจบลงด้วยดี มันเป็นโอกาสที่เราจะสร้างประวัติศาสตร์ สิ่งสำคัญสำหรับผมตอนนี้คือความสำเร็จของ ไอน์ทรัค เราต้องการทำให้ตำแหน่งในตารางของเรามั่นคงและผ่านเข้าไปเล่นแชมเปี้ยนส์ลีก' 

อดอล์ฟ หรือ อาดี้ ฮึทเทอร์ คือใคร? เหตุใด มึนเช่นกลัดบัค จึงเลือกโค้ชวัย 51 ปีมาเป็นนายใหญ่ทีมสิงห์หนุ่มคนใหม่ 

ฮึทเทอร์ มีประสบการณ์ในฐานะนักเตะอาชีพตำแหน่งมิดฟิลด์นานถึง 18 ปีกับ ลินเซอร์ เอเอสเค, อัลทัช, กราเซอร์ เอเค, ออสเตรีย ซัลซ์บวร์ก, คัปเฟนแบร์เกอร์ และ เร้ด บูลล์ ซัลซ์บวร์ก จูเนียร์ส อีกทั้งยังเล่นกับทีมชาติออสเตรียอีก 14 นัด ในช่วงปี 1994-1997 

ช่วง 7 ซีซั่นที่ค้าแข้งกับ ออสเตรีย ซัลซ์บวร์ก ระหว่างปี 1993-2000 เป็นช่วงโดดเด่นในอาชีพค้าแข้งของ ฮึทเทอร์ จากการคว้าแชมป์ ออสเตรีย บุนเดสลีกา 3 สมัย, แชมป์ ซูเปอร์ คัพ ออสเตรีย และ ผ่านเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศของศึก ยูฟ่า คัพ ซีซั่น 1993-1994 ก่อนพ่าย อินเตอร์ มิลาน 0-2 


ฮึทเทอร์ เริ่มต้นงานเทรนเนอร์กับทีมเยาวชนของ เร้ด บูลล์ ซัลซ์บวร์ก ในปี 2008 จากนั้นจึงย้ายมารับตำแหน่งโค้ชของ อัลทัช ระหว่างปี 2009-2012 ต่อด้วย โกรดิก ในช่วงปี 2012-2014 จนกระทั่งหวนคืนทีมเก่า ซัลซ์บวร์ก ในซีซั่น 2014-2015 ก่อนจะโยกมาคุม ยัง บอยส์ ในปี 2015 และนำต้นสังกัดคว้าแชมป์ สวิส ซูเปอร์ลีก ครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 1986 ในฤดูกาล 2017-2018 

จากผลงานดังกล่าวทำให้ ไอน์ทรัค แฟร้งค์เฟิร์ต ดึง ฮึทเทอร์ มารับตำแหน่งกุนซือเมื่อวันที่ 1 กรกฏาคม 2018 ก่อนประสบความสำเร็จในระดับหนึ่งจนเป็นที่ยอมรับของวงการลูกหนังเมืองเบียร์

กุนซือชาวออสเตรียนสร้างความประทับใจตั้งแต่การทำงานปีแรกโดยเฉพาะผลงานบนเวทียูโรปาลีกที่คว้าชัยทั้ง 6 นัดในรอบแบ่งกลุ่มที่อยู่ร่วมกับ ลาซิโอ, มาร์กเซย และ อพอลล่อน ก่อนเขี่ยทีมแกร่งอย่าง ชัคตาร์ โดเน็ตส์ค (รอบ 32 ทีม), อินเตอร์ มิลาน (รอบ 16 ทีม), เบนฟิกก้า (รอบ 8 ทีม) แต่ทีมอินทรีแดง-ดำดวลเป้าพ่าย เชลซี ในรอบรองชนะเลิศ จนกระทั่งทีมสิงห์น้ำเงินหลุดเข้าไปคว้าแชมป์รายการนี้หลังเกมยิงสลุต อาร์เซน่อล 4-1


ในซีซั่นดังกล่าว แฟร้งค์เฟิร์ต ยังพลาดตั๋วเล่นรายการแชมเปี้ยนส์ลีกครั้งแรกของสโมสรไปอย่างน่าเสียดายหลังฟอร์มหลุดในช่วงท้ายฤดูกาลจนรูดไปอยู่อันดับ 7 ตามหลังพื้นที่แชมเปี้ยนส์ลีกเพียง 4 คะแนน

ฮึทเทอร์ มีโอกาสนำทีมอินทรีแดง-ดำจบท็อปโฟร์ โดยเป็น 1 ใน 3 ทีมที่โค่นแชมป์เก่า บาเยิร์น มิวนิค ของ ฮันซี่ ฟลิค ในฤดูกาลนี้ด้วย ปัจจุบันเกาะอยู่อันดับ 4 ของลีกเมืองเบียร์นำหน้า ดอร์ทมุนด์ 7 คะแนน ขณะที่เหลือโปรแกรมลงสนามอีกเพียง 6 เกม

โค้ชชาวออสเตรียนจะเลือกใช้ระบบ 4-4-2 เน้นเกมรุกสมัยกุมบังเหียน ซัลซ์บวร์ก จนช่วยให้ทีมดังออสเตรียกระทุ้งบนเวทีบุนเดสลีกาถึง 99 ประตูในซีซั่น 2014-2015 แต่ ฮึทเทอร์ ยังนำแท็คติกของ อันโตนิโอ คอนเต้ มาประยุกต์ใช้งานในลีกเมืองเบียร์ด้วย 

ฮึทเทอร์ เลือกใช้ระบบ 3 เซนเตอร์ อาศัยการบุกริมเส้นทั้งสองฝั่งสนาม ส่วน 3 แนวรุกจะมีความยืดหยุ่น กุนซือวัย 51 ปียังเน้นใช้งานผู้เล่นประสบการณ์มากนักเตะสายเลือดใหม่ โดยจะมีการปรับเปลี่ยนก็ต่อเมื่อมีผู้เล่นบาดเจ็บหรือติดโทษแบนเท่านั้น 


'เขาให้อิสระกับเราในการแสดงคุณภาพของเราในสนาม' ลูก้า โยวิช ที่ย้ายมาจาก เรอัล มาดริด ด้วยสัญญายืมตัวกล่าวถึงการทำงานภายใต้การคุมทีมช่วงแรกของ ฮึทเทอร์ ซึ่งกองหน้าชาวเซิร์บมีส่วนร่วมถึง 68 เปอร์เซ็นต์จาก 60 ประตูที่ แฟร้งค์เฟิร์ต ทำได้บนเวทีบุนเดสลีกาซีซั่น 2018-2019 ในการเล่นสามแนวรุกร่วมกับ อันเต้ เรบิช และ เซบาสเตียง อัลแลร์

หลังการย้ายไปอยู่มาดริดของ โยวิช, อันเดร ซิลวา อดีตกองหน้า ปอร์โต้, เซบีย่า และ เอซี มิลาน เข้ามารับบทบาทเดียวกับแนวรุกชาวเซิร์บ เขาทำหนึ่งประตูทุกๆ 98 นาที ขณะที่ ไดจิ คามาดะ มิดฟิลด์ชาวญี่ปุ่นมีประสิทธิภาพการทำประตูมากกว่าเดิม 2 เท่าตัว ส่วน อามิน ยูเนส ที่เคยล้มเหลวกับ นาโปลี กลับมาแจ้งเกิดอีกครั้งฐานะแข้งทีมอินทรีแดง-ดำ นอกจากนี้ทั้ง ฟิลิป คอสติช กับ เอริก ดวร์ม ยังทำผลงานยอดเยี่ยมฐานะวิงแบ็กเช่นเดียวกัน

'อาดี้ ฮึทเทอร์ กำลังทำงานที่น่าตื่นเต้น แฟร้งค์เฟิร์ต มีการฝึกซ้อมที่ดีและพัฒนาขึ้นมาอย่างแท้จริง พวกเขาเล่นฟุตบอลที่ดุดัน พวกเขากดดันสูงขึ้นในสนาม คอสติช เป็นหนึ่งในนักเตะที่ทำแอสซิสต์ดีสุดของบุนเดสลีกาและสำหรับ ซิลวา พวกเขามีกองหน้าตัวเป้าที่รู้วิธีการทำประตู พวกเขายังมีแนวรับที่แข็งแกร่งเช่นเดียวกัน' ฟลิค นายใหญ่ทีมเสือใต้กล่าวถึง แฟร้งค์เฟิร์ต


ขณะที่ ยูเลียน นาเกลส์มันน์ เทรนเนอร์ของ แอร์เบ ไลป์ซิก กล่าวถึงโค้ชทีมอินทรีแดง-ดำว่า 'อาดี้ ฮึทเทอร์ เป็นโค้ชที่ดีมาก เขาได้รับพื้นฐานที่มั่นคงมาจาก นิโก้ โควัช และได้นำเสนอตัวตนในรูปแบบของเขาเองเหมือน นิโก้ เขาทำให้นักเตะเล่นได้ถึงขีดจำกัดของพวกเขา และทีมของเขายังเล่นด้วยใจอย่างแท้จริง' 

ส่วน เฟรดี้ โบบิช ผู้อำนวยการฝ่ายกีฬาของ แฟร้งค์เฟิร์ต กล่าวเพิ่มเติมว่า 'อาดี้ ทำผลงานอย่างยอดเยี่ยมสำหรับเราในบุนเดสลีกา, เดเอฟเบ คัพ และในยุโรปในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา เขาแสดงให้เห็นถึงคลาสของเขาและยังรักษาความสงบได้อย่างแท้จริง'

ทั้งประสบการณ์และความสามารถของ อาดี้ ฮึทเทอร์ จึงทำให้ เอเบิร์ล เชื่อมั่นว่ากุนซือวัย 51 ปีเป็นโค้ชที่เหมาะสมกับการสร้างทีมสิงห์หนุ่มก้าวขึ้นมาท้าทายบนเวทีบุนเดสลีกาอีก 3 ปีนับจากนี้ 


ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด