1. ทีมที่คว้าแชมป์ประกอบรายการนอกจากพรีเมียร์ฯมากสุด

เจ้าของสถิติปัจจุบัน : แมนฯ ยูไนเต็ด 1999 แชมป์พรีเมียร์ลีก อังกฤษ, แชมเปี้ยนส์ ลีก และ เอฟเอ คัพ 

เอาจริงๆ ลิเวอร์พูล ตอนนี้ตุนมาแล้ว 1 แชมป์ คาราบาว คัพ ลำดับต่อๆคือคือล่าแชมป์ เอฟเอ คัพ กับ เชลซี (14 พ.ค.), เข้าชิงฯชปล. (25 พ.ค.) รอพบผู้ชนะระหว่าง เรอัล มาดริด - แมนฯ ซิตี้ แล้วก็บี้แบบหายใจรดต้นคอทีมของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ไปใน 4 แมตช์เดย์ส่งท้าย 

นั่นหมายความว่าแมตช์ชิงดำที่ เวมบลี่ย์ พบ ‘สิงห์บลูส์’ จะเป็นเกมวัดว่าสถิติอันเกรียงไกรของ ‘ปีศาจแดง’ จะคงยั้งยืนยงต่อไป หรือมีลุ้นถูกทำลาย 

2. สถิติคลีนชีตมากสุด- ต่อ- ฤดูกาล  

เจ้าของสถิติปัจจุบัน : ปีเตอร์ เช็ก (เชลซี) 24 ครั้ง 

อาลีสซง เบ็คเกอร์ ผู้รักษาประตู ลิเวอร์พูล คือหนึ่งนักเตะที่ผลงานสม่ำเสมอสุดคนหนึ่งฤดูกาลนี้ จนครองใจคนวงการฟุตบอลยกให้เป็นนายด่านมือหนึ่งโลกยุคปัจจุบัน 

ทั้งยังมีลุ้นเขย่าบัลลังก์คลีนชีตมากสุด-ต่อ-ฤดูกาลของลีกที่อยู่ยั้งมานาน 

ย้อนไปถึงฤดูกาล 2004-05 ปีเตอร์ เช็ก ตำนานจอมหนึบ เชลซี สร้างผลงานมหาอุดเสียเพียง 15 ลูกจากการเล่น 38 แมตช์เดย์ มีส่วนพา ‘สิงห์บลูส์’ คว้าแชมป์ลีก จากจำนวน 24 คลีนชีต 

ปัจจุบัน ‘อาลี’ ทำแล้ว 20 คลีนชีต นั่นหมายความ 4 แมตช์เดย์ส่งท้ายห้ามเสียประตูอีกแม้แต่ลูกเดียว

มองแล้วไม่ง่ายเพราะเริ่มจากเจอ สเปอร์ส (เหย้า), แอสตัน วิลล่า (เยือน), เซาธ์แฮมป์ตัน (เยือน) หรือ วูล์ฟแฮมปตัน (เหย้า) มันสมควรเสียทุกนัด 

แต่ถ้ามองอีกทาง อุปสรรคก็เป็นความท้าทาย หากทำได้จริงคงโก้สุดๆ 

3. ยิงประตูจากฟรีคิกโดยตรงมากสุดในประวัติศาสตร์ 

เจ้าของสถิติปัจจุบัน : เดวิด เบ็คแฮม (แมนฯ ยูไนเต็ด)  18 ครั้ง 

ทุกครั้งที่ เจมส์ วอร์ด-พราวส์ ได้ลุ้นสังหารลูกตั้งเตะจากนอกกรอบเขตโทษ เจ้าตัวคงมีเรื่องให้คิดล้านแปดอย่างโดยเฉพาะเรื่องล่าสถิติ

ปัจจุบันกัปตัน เซาธ์แฮมป์ตัน ยิงประตูจากฟรีคิกโดยตรงไปแล้ว 14 ครั้งตลอดอาชีพ ตามหลังสถิติมากสุดตลอดกาลที่สร้างโดยไอดอลของตัวเองอย่าง เดวิด เบ็คแฮม อีกแค่ 4 เม็ด 

กับสามแมตช์เดย์ที่เหลือพบ เบรนท์ฟอร์ด, ลิเวอร์พูล หรือ เลสเตอร์ จะว่าลุ้นเกิดขึ้นได้ก็อยู่บนความเป็นไปได้ แม้โอกาสน้อย 

แต่ด้วยวัยวุฒิปัจจุบันของมิดฟิลด์ชาวอังกฤษแค่ 27 กะรัต อายุการใช้งานอีกเพียบ ดังนั้นเรื่องทุบสถิติอาจไม่เกินกำลัง มองแค่เมื่อไหร่มากกว่า 

4. ผลต่างประตูได้- เสียของทีมแชมป์กับรองแชมป์ต่ำสุด 

เจ้าของสถิติปัจจุบัน : แมนฯ ซิตี้ +8 ประตู ฤดูกาล 2011-12

ย้อนไปเมื่อฤดูกาล 2011-12 ที่ตำแหน่งแชมป์แย่งแบบใจหายใจคว่ำลุ้นยันวินาทีสุดท้ายแล้วเป็น เซร์คีโอ อเกวโร่ ‘กุน’ ยิงประตูชัยให้ แมนฯ ซิตี้ ปราบ คิวพีอาร์ 3-2 

ส่งผลให้เบอร์หนึ่งประเทศตกเป็นของ ‘เรือใบสีฟ้า’ ที่แต้มเท่า แมนฯ ยูไนเต็ด อันดับ 2 ที่ 89 แต้ม แต่ผลต่างประตูได้-เสียดีกว่า 8 ลูกนั้น 

มาซีซั่นปัจจุบันการลุ้นแชมป์ก็เข้าไคลเมื่อ ซิตี้ จ่าฝูงผลต่างประตูได้-เสีย +63 ลูก 

แต้มมากกว่า ‘หงส์แดง’ อับสอง 1 คะแนน แต่ทีมของ เจอร์เก้น คล็อปป์ ประตูได้-เสีย +64 ลูก

มันคงเป็นความคลาสสิคหากตำแหน่งแชมป์ตัดสินจากประตูได้-เสียอีกหากแต้มเท่ากัน ซึ่งก็มีโอกาสเกิดได้หาก แมนฯ ซิตี้ เจ๊า 2, ชนะ 2 จากสี่เกมส่งท้าย 

ฟาก ลิเวอร์พูล ชนะ 3, แพ้ 1 

5. ธุรกิจฟุตบอลที่ขาดทุนมากสุดตลอดกาล 

เจ้าของสถิติปัจจุบัน : เฟร์นานโด ตอร์เรส (เชลซี ไป เอซี มิลาน - ขาดทุน 38 ล้านปอนด์) 

เมื่อ เอซี มิลาน ยอมจ่าย 2 ล้านปอนด์เพื่อคว้าสิทธิ์ขาดในตัว เฟร์นานโด ตอร์เรส เมื่อม.ค.ปี 2015 ก็นับว่าหยุดฝันร้ายแก่แข้งสแปนิชฐานะกองหน้าส่วนเกิน เชลซี 

นั่นทำให้ ‘สิงห์บลูส์’ ขายขาดทุน 38 ล้านปอนด์สูงสุดตลอดกาล เพราะตอนซื้อพ้น ลิเวอร์พูล แพงกว่า 40 ล้านปอนด์ 

ผ่านมา 6 ปีครึ่งเรคคอร์ดอาจโดนทุบเมื่อ ปอล ป็อกบา ที่ แมนฯ ยูไนเต็ด ซื้อจาก ยูเวนตุส สนนราคา 89 ล้านปอนด์ กำลังจะเดินออกจาก โอลด์ แทรฟฟอร์ด แบบฟรีเอเยนต์ 

แน่นอนไม่เคยมีฟรีเอเยนต์ที่ค่าตัวแพงสุดแบบนี้มาก่อนในประวัติศาสตร์พรีเมียร์ลีก อังกฤษ

แต่หากเอาทั้งโลกลูกหนังเรคคอร์ดดังกล่าวอาจเป็นของ อุสมาน เดมเบเล่ แห่ง บาร์เซโลน่า 

6. สถิติใบแดงมากสุด- ต่อ- ฤดูกาล  

เจ้าของสถิติปัจจุบัน : ซันเดอร์แลนด์/คิวพีอาร์ : 9 ครั้ง 

ลูกทีมของ มิเกล อาร์เตต้า มีปัญหาเรื่องรักษาขุมกำลังให้ครบ 11 คนเมื่อครบ 90 นาที -บ้างบอกเป็นปัญหาเรื่องอ่อนวินัยเอง บ้างโทษความผิดผู้ตัดสินเข้มงวดเกินงาม 

ทั้งฤดูกาลนี้ ‘ปืนใหญ่’ โดนไปแล้ว 5 ใบแดงจากทุกรายการ จำเพาะแค่พรีเมียร์ลีก อังกฤษ โดนไปสามเที่ยว

อาจห่างไกลจากเรคคอร์ดทว่ามันดันมีเกมล่อแหลมอย่าง นอร์ท ลอนดอน ดาร์บี้ แมตช์ ท้าชน สเปอร์ส อริตัวเอ้แถมมีเดิมพ้นตั๋วแชมเปี้ยนส์ ลีก อีก 

7. การทำประตู- แอสซิสต์ระหว่างผู้เล่น 2 คน- ต่อ- ฤดูกาล 

เจ้าของสถิติปัจจุบัน : แฮร์รี่ เคน และ ซน ฮึง-มิน (สเปอร์ส) 14 ลูก 

พรีเมียร์ลีก อังกฤษ มีดูโอเด่นๆหลายคู่ ไล่จาก อลัน เชียเรอร์ - คริส ซัตตัน, ไมเคิ่ล โอเว่น - เอมิล เฮสกีย์, เวย์น รูนี่ย์-คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ... จนมาถึง แฮร์รี่ เคน - ซน ฮึง-มิน ที่ปัจจุบันสะสมประตูให้กันและกันไปแล้วถึง 40 ลูก มากกว่าคู่หูใดเคยสร้างไว้ 

เรคคอร์ดร่วมกันที่สองนั้นทำไว้ที่ 14 ลูกเกิดเมื่อฤดูกาล 2020-21 

มาซีซั่นปัจจุบันออกตัวช้าไปหน่อยมีเพียง 8 ประตู กับโปรแกรมที่เหลือจำนวน 6 ลูกเพื่อทาบ 7 ลูกเพื่อแซง ว่ามากก็มาก ว่าพอไหวก็ได้ลุ้น 

เพราะเป้าหมายที่ยิ่งใหญ่อย่างตั๋วชปล.คือแรงขับชั้นดี 

8. แอสซิสต์ต่อฤดูกาลมากสุด  

เจ้าของสถิติปัจจุบัน : เควิน เดอ บรอยน์ (แมนฯ ซิตี้) และ เธียร์รี่ อองรี (20 แอสซิสต์) 

ตัวเลขแสนมหัศจรรย์ 20 แอสซิสต์ทั้งฤดูกาลไม่ใช่เรื่องที่เกิดง่ายๆ อย่างเคสของ เควิน เดอ บรอยน์ ทำไว้ในซีซั่นล็อคดาวน์ก็เนิ่นน่านห่างระยะจาก เธียร์รี่ อองรี สร้างไว้พอสมควร 

สำหรับฤดูกาลนี้พวกในข่ายลุ้นคือ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ที่ทำไปแล้ว 13 แอสซิสต์ อีกคนคือ เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ 12 เปิดป้อน 

มองจากจำนวนเกมลงสนามที่เหลือยากที่สองคนนั้นจะทำลายสถิติเดิมไหว แต่อย่างน้อยก็แสดงให้เห็นว่าทุกเรคคอร์ดบนหิ้งพร้อมถูกท้าทาย  

9. การเปลี่ยนแปลงผจก .ทีมมากหนสุด 

เจ้าของสถิติปัจจุบัน :20 (ฤดูกาล 2017-18)

เป็นอีกซีซั่นที่บ้าบอเกี่ยวกับตำแหน่งผจก.ทีม ที่เวียนเข้าเวียนออกตลอดปีเพราะที่ วัตฟอร์ด ก็ใช้เปลืองแล้ว 3 คน ส่งผลให้ทั้งลีกเกิดการเปลี่ยนหน้าคนกุมบังเหียนรวมแล้ว 14 ราย 

ห่างไกลจากเรคคอร์ด 20 รายก็จริงเมื่อพิจารณาจากจำนวนเกมที่เหลือ 

ยากปฏิเสธว่าอาจมีเซอร์ไพรส์ท้ายฤดูกาลเพราะต่างลูกผีลูกคนบนเก้าอี้ไม่ว่า รอย ฮอดจ์สัน, แฟร้งค์ แลมพาร์ด, โธมัส ทูเคิ่ล, ดีน สมิธ, เบรนแดน ร็อดเจอร์ส และ อันโตนิโอ คอนเต้ พร้อมลุกจากตำแหน่งกันหมด 

แต่จะให้ชิ่งถึง 7 คนนั้นมองแล้วคงไม่ไหว 

10. แต้มมากสุดตลอดกาลแล้วยังตกชั้น 

เจ้าของสถิติปัจจุบัน : เวสต์แฮม 42 คะแนน 

เอฟเวอร์ตัน ลำดับ 18 ตารางทีมสุดท้ายที่จะตกชั้นปัจจุบัน มีอยู่ 32 แต้มขณะเหลือเกมแข่งอีก 5 นัด ด้าน เบิร์นลี่ย์ กับ ลีดส์ อีกสองค่ายลุ้นหนีตายเช่นกัน 34 แต้มจาก 4 นัดท้ายในมือ 

‘ทอฟฟี่สีน้ำเงิน’ ยังอาจตกชั้นหากชนะ 3 เกม, เสมอ 1 เกม จากจำนวนนัดที่เหลือ หากว่าเหล่าคู่แข่งแย่งทำอันดับสามารถชนะได้ถึง 3 นัด 

ซึ่งถ้ามันเกิดจริงก็น่าสงสารเหล่า’เอฟเวอร์โตเนี่ยน’และผจก.ทีม แฟร้งค์ แลมพาร์ด เพราะมันนานเกือบ 2 ทศวรรษแล้วนับจาก เวสต์แฮม ได้ตั้ง 42 คะแนนแต่ยังตกชั้นฤดูกาล 2002-03