ตลาดรอบนี้เป็นอีกหนึ่งฤดูกาลที่มีการโยกย้ายที่น่าตื่นเต้น จนอยากจะให้เปิดไทยลีกเสียที เพราะอดใจไม่ไหวที่จะได้เห็นผู้เล่นใหม่กับเกมลูกหนังกันแล้ว วันนี้เรามาลองดูกันว่าทีมที่ทำการเสริมทัพ ก่อนลุยไทยลีก 2022/2023 จะมีดีลไหนน่าสนใจบ้าง
บีจี ปทุม ยูไนเต็ด
เป็นอีกครั้งที่ “เดอะ แรบบิท” สร้างเสียงฮือฮา ไล่ตั้งแต่การได้ เจริญศักดิ์ วงษ์กรณ์ เข้ามาเสริมแกร่งในตำแหน่งปีกจาก สมุทรปราการ ซิตี้ ตามมาด้วย อดิศักดิ์ ซอสูงเนิน (ขอนแก่น ยูไนเต็ด), เปาโล คอนราโด (ตราด เอฟซี), กาซิโอ ไซด์ (วาร์ซิม เอสซี), ลิดอร์ โคเฮน (หนองบัว พิชญ เอฟซี)
ก่อนที่จะมีบิ๊กดีลมูลค่า 50 กว่าล้านบาท ในการคว้า พิธิวัตต์ สุขจิตธรรมกุล มาจาก ลีโอ เชียงราย ยูไนเต็ด โดยแบ่งเป็นค่าตัว 40 ล้านบาท บวกกับค่าตัวของนักเตะที่ส่งไปให้ยืม และปิดท้ายที่ เจสซี เคอร์แรน ปีกขวาทีมชาติฟิลิปปินส์จาก คายา เอฟซี เป็นอันว่าพวกเขาพร้อมลุ้นแชมป์ไทยลีก 2022/2023 แบบที่ทุกคนยกให้เป็นเต็ง 1 ร่วมกับ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด
บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด
ไม่ซื้อเยอะแต่เน้นคุณภาพของผู้เล่นต่างชาติกลุ่มใหม่ ซึ่งพวกเขาเก็บ โจนาธาน โบลินกิ ดาวยิงทีมชาติดีอาร์ คองโก ชุดแอฟริกัน คัพ ออฟ เนชันส์ 2023 ที่ทำผลงานได้ยอดเยี่ยมในเลกสองซีซั่นที่ผ่านมา รวมถึง อายุบ มาซิก้า ปีกความเร็วสูงทีมชาติเคนยา เอาไว้ หลังช่วยพาทีมคว้า ทริปเปิ้ล แชมป์
การเสริมทัพนั้นเริ่มจาก แฟรงค์ คาสตาเญดา แนวรุกสัญชาติโคลอมเบีย ผู้สร้างชื่อในสมัยลงเล่นให้ เชริฟฟ์ ติราสปอล สโมสรของมอลโดวา พลิกล็อกชนะ เรอัล มาดริด ในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ให้เข้ามาสวมเสื้อหมายเลข 10 ของ "ปราสาทสายฟ้า" ตามด้วย ลอนซานา ดุมบูญา ศูนย์หน้าชาวกินีอดีตดาวยิง พีที ประจวบ และ ตราด เอฟซี กลับมาเล่นไทยลีกอีกครั้ง โดยมาจาก เซี่ยงไฮ้ เสิ่นหัว ในไชนีส ซูเปอร์ลีก
และปิดท้ายที่ โกรัน เคาซิช ห้องเครื่องจอมบู๊วัย 30 ปี กองกลางทีมชาติเซอร์เบีย ยู 21 ที่เคยได้ดวลเดือดกับสตาร์ดังอย่าง เนย์มาร์ ซูเปอร์สตาร์ทีมชาติบราซิล ของเปแอสเช ในถ้วยสโมสรยุโรปมาแล้ว
ชลบุรี เอฟซี
นอกจากการต่อสัญญาถาวรกับ เรนาโต เคลิช ที่หมดมาจาก บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด แล้ว "ฉลามชล" ก็ยังได้ ชาญณรงค์ พรมศรีแก้ว กลับมาจากสเปน แพร้อมกับดึงแบ็กซ้ายดาวรุ่งอย่าง กิตติพงษ์ แสนสนิท มาเติมเต็มขุมกำลัง แถมด้วยดีลที่ฮือฮาไม่น้อยในการบรรลุข้อตกลงคว้า สุมัญญา ปุริสาย กองกลางมากประสบการณ์มาสวมเสื้อหมายเลข 77 แบบไร้ค่าตัว!!
นอกจากนั้น ชลบุรี เอฟซี ยังจัดหนักในแนวรุกด้วยการคว้า 2 ผู้เล่นต่างชาติที่เข้ามาใหม่ นั่นคือ อมาดู อ็อตตาร่า แนวรุกชาวไอวอรี่โคสต์ จากสโมสร นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี กับ ดานิโล่ อัลเวส หัวหอกเลือดแซมบ้า ที่ลงสนามไป 31 นัดทุกรายการ ทำได้ 19 ประตู ให้กับ สุพรรณบุรี เอฟซี นับว่าเป็นอีกฤดูกาลที่กองเชียร์ "ฉลามชล" ต่างตั้งตารอดูผลงานจริง หลังจากทำได้ยอดเยี่ยมในช่วงพรีซีซั่นอย่างต่อเนื่อง
ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด
ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด ใช้เงินไม่ถึง 10 ล้านบาท ในตลาดนักเตะเลกแรก แต่ได้ขุมกำลังหลักๆ มาเพิ่มถึง 7 คน ซึ่ง 3 รายแรก ได้มาแบบฟรีๆ ทั้ง รัชนาท อรัญญไพโรจน์ (สุพรรณบุรี เอฟซี), นิติพงษ์ เสลานนท์ (ลีโอ เชียงราย ยูไนเต็ด), ทัศนพงษ์ หมวดดารักษ์ (หนองบัว พิชญ เอฟซี) แต่ละคนชื่อชั้นดีกรีถือว่าการันตีคุณภาพมาแล้วทั้งนั้น
ต่อด้วย 2 แข้งนอกอย่าง วิลเลน โมตา (พีที ประจวบ เอฟซี) และ มาห์มูด ดาฮัดฮา (หนองบัว พิชญ เอฟซี) ก่อนที่จะต้องใช้เงินในคลังไปสู่ขอ 2 ดาวเตะจาก สมุทรปราการ ซิตี้ ทั้ง ปฏิวัติ คำไหม กับ ชญาวัต ศรีนาวงษ์ เรียกได้ว่า "แข้งเทพ" เสริมทุกตำแหน่ง ทั้ง ผู้รักษาประตู, แนวรับ, แผงมิดฟิลด์ ตลอดจน กองหน้า
การท่าเรือ เอฟซี
น่าจะถึงเวลาแล้วที่ "มาดามแป้ง"นวลพรรณ ล่ำซำ ประธานสโมสร ต้องปลุกชีพยอดทีมจากคลองเตยให้กลับมาผงาดอีกครั้ง เริ่มจากปฏิบัติการณ์ดึง 2 แข้ง ผลงานเยี่ยมจาก หนองบัว พิชญ เอฟซี อย่าง แอร์ตอน ติราบาสซี กองหลังจอมฟิต และ แฮมิลตัน โซอาเรส ดาวซัลโวซีซั่นที่แล้วที่กระซวกไปถึง 19 ประตู
รวมทั้งได้ กิลแยร์เม ปินโต “เนเกบา” ดีกรีแชมป์โลก U20 กับทีมชาติบราซิลในปี 2011 รุ่นเดียวกับ ออสการ์, คาเซมิโร่ และฟิลิปเป้ คูตินโญ่ ตลอดจน ฟราน ปูโตรส แนวรับลูกครึ่งเดนมาร์ก-อิรัก จากวีบอร์ก ในลีกสูงสุดแดนโคนม และ ศุภนันท์ บุรีรัตน์ เพื่อมายืนแบ็คขวาในช่วงที่ ฟิลิป โรลเลอร์ ยังรักษาอาการเจ็บ พร้อมกับอิมพอร์ท กุสตาฟ ซาห์ลิน กองหน้าดาวรุ่งลูกครึ่งไทย-สวีดิช เข้ามาเรียกเสียงกรี๊ดจากบรรดาแม่ยก โดยซีซั่นนี้จะมี สก็อตต์ คูเปอร์ กุนซือชาวอังกฤษที่คร่ำหวอดกับการคุมทีมในเมืองไทยเข้ามากุมบังเหียนอีกด้วย
หนองบัว พิชญ เอฟซี
อาจจะเป็นปีที่ท้าทายไม่น้อยของ "โค้ชวัง" ธวัชชัย ดำรงอ่องตระกูล เพราะว่า "พญาไก่ชน" ไม่สามารถต่อสัญญากับ 2 แข้งแซมบ้าตัวเก่งอย่าง แฮมิลตัน โซอาเรส กับ แอร์ตอน ติราบาสซี ที่ย้ายไป การท่าเรือ เอฟซี แถม มาห์มูด ดาฮัดดา ยังฉีกสัญญาเพื่อโยกไป ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด ไหนจะแข้งไทยอย่าง ยุทธพงษ์ ศรีละคร และ ทัศนพงษ์ หมวดดารักษ์ ที่หมดสัญญากับทีม
แต่ถึงกระนั้น The Show Must Go On เก่าไปใหม่ก็มา ซีซั่นนี้ หนองบัวฯ ได้ตัวไทยอย่าง วัฒนา พลายนุ่ม, ปิยพล ผานิชกุล, แซมมวล ป. คันนิ่งแฮม, ปริญญ์ กุญชร, ชาตรี รัตนวงศ์ และ ลีออน เจมส์ รวมทั้งศิษย์เก่า "โค้ชวัง" อย่าง ซีเกต หมาดปูเต๊ะ, รัชพล นาวันโน, วันเฉลิม ยิ่งยง ส่วนโควตาเอเชียได้ อิสลาม บาตรัน อิซดิฮาร ปีกดาวยิงทีมชาติปาเลสไตน์ ตามด้วยกองหลังบราซิลอย่าง ฮอร์เก เฟลลิเป และ มาร์ลอน เดอ เฆซุส หัวหอกทีมชาติเอกวาดอร์ เข้ามาเสริมทีม ต้องรอดูกันว่ามีการเปลี่ยนแปลงมากขนาดนี้ "พญาไก่ชน" จะยังร้อนแรงเหมือนซีซั่นที่ผ่านมาหรือไม่
พีที ประจวบ เอฟซี
เปลี่ยนแปลงแบบยกทีม ด้วยการดึง “โค้ชโจ” ธีระศักดิ์ โพธิ์อ้น เข้ามาเป็นแม่ทัพคนใหม่พร้อมทีมสตาฟฟ์คู่ใจ เสริมทัพใหม่ไล่ตั้งแต่การยืม ณัฐวุฒิ สุขสุ่ม, เพชรรัตน์ โชติปาละ, ชินวัฒน์ วงศ์ไชย, จักรกฤษ ลาภตระกูล รวมทั้งดึง วันชาติ ชูสงค์, ศรุต ณะศรี, ถิรายุ บรรหาญ, นัสตพล มาลาพันธ์ เข้ามาสู่ทีม ส่วนโควตาเอเชียก็ได้ ควอน แต ฮี กองหลังเอเชียสัญชาติเกาหลีใต้ กลับมาเล่นในถิ่น สามอ่าว สเตเดี้ยม อีกครั้ง
ขณะที่โควตาต่างชาติได้ของดดีอย่าง ลอสเซมี คาราบูเอ มิดฟิลด์จอมทัพจาก สุพรรณบุรี เอฟซี, เมารินโญ จอมทัพชุดแชมป์ โตโยต้าลีก คัพ 2019 คัมแบ็คกลับมา ตามด้วย 2 แข้งจาก สมุทรปราการซิตี้ ทั้ง ซามูเอล โรซา กับ อริส ซาริโฟวิช ขณะที่อาเซียนก็น่าสนใจตรงที่พวกเขาเลือกคู่หูทีมชาติฟิลิปปินส์ ทั้ง แพทริก เดย์โต ในตำแหน่งผู้รักษาประตู กับ เดนนิส วิลลานูเอวา แนวรับที่เหล่าสตาฟฟ์ต่างรู้มือดีจากที่เคยร่วมงานกันในทีม "สวาดแคท" มาแล้ว
ลำพูน วอริเออร์
เลื่อนชั้นมาด้วยดีกรีแชมป์ไทยลีก 2 แต่การเสริมทัพกลับโหดเสียกว่าลีกสูงสุดบางทีม ซึ่ง "โค้ชโอ่ง"ดุสิต เฉลิมแสน ได้ตัวผู้เล่นวัยหนุ่มเข้ามามากมาย แต่ล้วนมีประสบการณ์ในทีมชาติไทย ทั้ง เจนรบ สำเภาดี, ชัยวัฒน์ บุราณ, นนท์ ม่วงงาม, เจษฎากร ขาวงาม, ชนภัช บัวพันธ์, ธิติ ทุมพร รวมถึง สันติภาพ ราษฎร์นิยม และ สหวิช ขำเปี่ยม
บวกด้วยตัวเก๋าจาก เชียงใหม่ ยูไนเต็ด ไม่ว่าจะเป็น บวร ตาปลา กับ ทศพล ลาเทศ ก่อนจะได้อาเซียนอย่าง เอียน แรมซีย์, กิเก้ ลินาเรส และตัวโหดอย่าง โมฮัมเหม็ด ออสมาน กองกลางทีมชาติซีเรีย ที่มีการเปิดเผยจากผู้บริหารสโมสรว่าเกือบจะย้ายไป อตาลันต้า ในศึกกัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี อยู่แล้วทว่าฝั่งนั้นขยับช้าเกินไป และทีเด็ดแนวรุกอย่าง อ็อกเยน มูดรินสกี ดาวซัลโวลีกสูงสุดสโลวีเนีย ที่จำนวน 17 ประตู จาก 27 นัด พร้อมทั้งช่วย มาริบอร์ สโมสรดังคว้าแชมป์ลีกไปซีซั่นนี้
ด้วยการแข่งขันของไทยลีก 1 ที่สูงขึ้นในแต่ละซีซั่น ฉะนั้นไม่แปลกใจที่เราจะเห็นแต่ละทีม ทำการเสริมทัพด้วยแข้งคุณภาพทั้งคนไทยและต่างชาติ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของแฟนบอล ที่จะเข้ามาซัพพอร์ตทีมรัก อีกทั้งยังเป็นการสร้างมูลค่าของลีกบ้านเราให้สูงเพิ่มขึ้นด้วย
ไว้รอติดตามภาคสองกันในครั้งหน้า ว่าทีมอื่นๆ จะมีดีลไหนที่น่าติดตามกันอีกบ้าง
