:::     :::

ชีวิตใหม่ที่โรมของ เปาโล ดีบาล่า

วันเสาร์ที่ 17 กันยายน 2565 คอลัมน์ ศาสดา On The Ball โดย ศาสดาลูกหนัง
1,052
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ลงสนาม 8 นัดในทุกรายการ ยิงไป 4 ประตู 2 แอสซิสต์ นี่คือ เปาโล ดีบาล่า ร่างทองที่กำลังเล่นได้อย่างโดเด่นในสีเสื้อ โรม่า และกำลังเป็นคีย์แมนคนสำคัญของ โชเซ่ มูรินโญ่ อีกด้วย

เปาโล ดีบาล่า เซ็นสัญญา​มาอยู่กับ โรม่า แบบไม่มีค่าตัว โดยเบื้องต้นเขาเซ็นกับทีมไปถึงปี 2025 โดยจะยอมลดค่าเหนื่อยจาก 8 ล้านยูโรต่อปีที่เคยได้รับกับ ยูเวนตุส มาเหลือเพียง 6 ล้านยูโรต่อปีบวกโบนัสแอดออนกับ โรม่า แทน


เปาโล ดีบาล่า ในวัย 28 ปีเป็นยอดนักสู้มาตั้งแต่เด็ก ๆ เขาลืมตาดูโลกที่ ลากูน่า ลาก้า ชุมชนเล็ก ๆ ใน คอร์โดบา ประเทศอาร์เจนตินา สายเลือดของเขาทางฝั่งคุณปู่นั้นอพยพจากโปแลนด์ตอนช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 คุณยายมีเชื้ออิตาเลียน ส่วนตัวเขาเองเกิดที่อาร์เจนตินา นั่นจึงทำให้จริง ๆ แล้ว ดีบาล่า สามารถเลือกเล่นได้ถึง 3 ชาติเลยทีเดียว


เขาเริ่มต้นเล่นฟุตบอลตั้งแต่ 5 ขวบ และเคยได้รับความสนใจจาก นีเวลล์ โอลด์ บอยส์ ทีมที่เคยปลุกปั้น ดิเอโก้ มาราโดน่า กับ ลิโอเนล เมสซี่ มาแล้ว แต่สุดท้ายเขากับคุณพ่อเลือกที่จะปฏิเสธมัน


"คุณพ่อของผมมองว่าผมยังเด็กเกินไปถ้าต้องไปอยู่คนเดียวที่ โรซาริโอ และอาจทำให้ผมเกิดโรคโฮมซิคเหมือนกับพี่ชายของผม และการไปอยู่ทีมใหญ่เมื่อยังไม่พร้อม อาจทำให้ผมไม่สามารถพัฒนาตัวเองได้มากเท่าที่ควรอีกด้วย"


ในคราวนั้น ดีบาล่า เลือกเซ็นสัญญากับสโมสร อินสติตูโต้ ในบ้านเกิดแทนครับ ซึ่งสโมสรแห่งนี้อยู่ไม่ไกลจากบ้านเขามาก และเป็นสโมสรที่พร้อมให้โอกาสเขาลงสนามชุดใหญ่โดยไม่กังวลเรื่องอายุอีกด้วย


เปาโล ดีบาล่า บนวัยเพียงแค่ 15 ที่กำลังสนุกกับฟุตบอล จู่ ๆ ต้องพบกับความสูญเสียครั้งใหญ่ที่สุดในชีวิต นั่นก็คือการจากไปอย่างไม่มีวันกลับของคุณพ่อบังเกิดเกล้าด้วยโรคมะเร็งตับอ่อน มันคือช่วงเวลาที่เขาเสียใจจนแทบจะเลิกเล่นฟุตบอลไปเลยด้วยซ้ำ


"มันยากลำบากมากในตอนนั้น ผมเกือบเลิกเล่นฟุตบอลแล้วกลับมาช่วยงานที่บ้าน เพราะครอบครัวของเราไม่ได้ร่ำรวยอะไร แต่ทุกคนในครอบครัวไม่เห็นด้วย พวกเขาอยากให้ผมทำตามความฝันของคุณพ่อให้สำเร็จ นั่นคือการเป็นนักฟุตบอลอาชีพให้ได้" 


ดีบาล่า กลับมาเล่นฟุตบอลด้วยความมุ่งมั่นทุ่มเท เขาใช้พรสวรรค์บวกกับพรแสวงเร่งตัวเองขึ้นมาสู่ทีมชุดใหญ่ของ อินสติตูโต้ อย่างรวดเร็ว และเมื่อตอนอายุแค่ 17 ปี เขาก็ทำลายสถิติทุกอย่างของสโมสรลงอย่างราบคาบ


ดีบาล่า ทำสถิติลงสนามติดต่อกันนานที่สุดถึง 38 นัด, ยิงประตูติดต่อกัน 6 นัด, ทำได้ 2 แฮตทริค, ยิง 17 ประตูจากการเล่นชุดใหญ่ปีแรก และขึ้นทำเนียบเป็นนักเตะที่อายุน้อยที่สุดที่ยิงแฮตทริคให้ทีมได้อีกต่างหาก


เล่นกับ อินสติตูโต้ ชุดใหญ่แค่ปีเดียว ดีบาล่า ก็ย้ายมาเล่นในยุโรปกับ ปาแลร์โม่ ด้วยค่าตัวราว ๆ 8 ล้านยูโร  ซึ่งทางด้าน เมาริซิโอ ซามปารินี่ ประธานสโมสรถึงกับให้สัมภาษณ์กับนักข่าวว่า "จับตาดูเด็กคนนี้ไว้ให้ดี เขาจะเป็น นิว อเกวโร่ แห่งวงการฟุตบอลอิตาเลียนในอนาคต" 


แต่การลุยยุโรปปีแรกของ ดีบาล่า ไม่ได้ง่ายแบบที่คิด เขาประเดิมซีซั่นแรกกับ ปาแลร์โม่ อย่างยากลำบาก โดยทำได้แค่ 3 ประตูจากการลงสนาม 27 นัด และนั่นมันก็ไม่เพียงพอที่จะช่วยให้ ปาแลร์โม่ รอดพ้นการตกชั้นในฤดูกาลนั้น


ดีบาล่า มาเริ่มปรับตัวได้ตอนที่เล่นในเซเรีย บี โดยเขาจับคู่กับ อันเดรีย เบล็อตติ ในแดนหน้าอย่างเข้าขารู้ใจ ดีบาล่า ทั้งคู่ยิงรวมกันได้ 15 ประตูจาก 28 นัดที่ลงสนามร่วมกัน พร้อมกับพาทีมเลื่อนชั้นกลับมาสู่ลีกสูงสุดได้ภายในปีเดียว


ดีบาล่า กลายเป็นขวัญใจของแฟน ๆ อย่างเต็มตัว เขาได้รับรางวัลผู้เล่นยอดเยี่ยมประจำปีของสโมสร และยังได้เกียรติให้สวมปลอกแขนกัปตันทีมในบางนัดอีกด้วย




เมื่อกลับมาเล่นใน เซเรีย อา อีกครั้ง คราวนี้ ดีบาล่า พัฒนาตัวเองขึ้นมาชนิดก้าวกระโดด ยิงได้ 13 ประตู กับอีก 10 แอสซิสต์ พ่วงด้วยรางวัลท๊อป แอสซิสต์ของลีกชนิดไร้คู่แข่ง


ด้วยฟอร์มที่ยอดเยี่ยมกับ ปาแลร์โม่ ทำให้หลายทีมในอิตาลีอยากได้ตัวของ ดีบาล่า ไปร่วมทัพ แต่สุดท้ายด้วยข้อเสนออันงดงามจาก ยูเวนตุส ยักษ์​ใหญ่่ของประเทศก็เอาชนะใจของเขาได้ไม่ยาก โดยดาวเตะอาร์เจนไตน์ย้ายมาอยู่ที่ตูรินด้วยค่าตัวถึง 32 ล้านยูโร พ่วงด้วยโบนัสแอดออนอีก 8 ล้านเลยทีเดียว


ช่วง 3 เดือนแรกกับเจ้าม้าลาย ดีบาล่า แทบไม่ได้ลงสนามให้ ยูเวนตุส เลย ทั้งอาการบาดเจ็บ และทั้งการที่ทีมมีกองหน้าชั้นยอดยืนขวางอยู่หลายราย ไม่ว่าจะเป็นโมราต้า, มานด์ซูคิซ หรือกระทั่ง ซิโมเน่ ซาซ่า


"3 ปีก่อนผมเล่นในดิวิชั่น 2 ของอาร์เจนตินา 18 เดือนก่อนผมยังเล่นอยู่ใน เซเรีย บี จะให้ผมย้ายมาแล้วเป็นตัวจริงเลยคงไม่มีทาง ผมต้องอดทนรอโอกาสและพิสูจน์ตัวเองให้ได้" ดีบาล่า ให้สัมภาษณ์ว่าเขาเข้าใจในสถานการณ์​ของการต้องแย่งตำแหน่งในทีม ยูเว่


ผลงานในตอนนั้นของ ยูเวนตุส ย่ำแย่มาก พวกเขาตกลงไปอยู่ถึงอันดับ 10 และกว่า ดีบาล่า จะเริ่มสอดแทรกตัวจริงได้ก็ปาเข้าไปถึงเดือนมกราคมโน่นเลย


เมื่อโอกาสมาถึง เปาโล ดีบาล่า จับคู่กับ โมราต้า ได้อย่างยอดเยี่ยมในแดนหน้า เขายิงได้ถึง 23 ประตูในทุกรายการ และพา ยูเวนตุส กลับขึ้นมาคว้า สคูเด็ตโต้ ไปได้หน้าตาเฉย ขณะที่ฤดูกาลต่อมาเขาก็รับบทบาทเป็น เพลย์เมคเกอร์ ในระบบ 4-2-3-1 แต่ก็ยังอุตส่าห์ยิงได้ถึง 19 ประตู กับอีก 9 แอสซิสต์


หลังจากแจ้งเกิดได้สำเร็จ เปาโล ดีบาล่า กลายเป็นสตาร์ดังตัวท็อปของลีกมาตลอด เขาเล่นให้ ยูเวนตุส นานถึง 7 ฤดูกาล ลงสนามไป 293 นัด ยิงได้ 115 ประตูกับอีก 48 แอสซิสต์ พาทีมคว้าแชมป์ลีก 5 สมัย, แชมป์บอลถ้วยในประเทศอีก 7 ใบ และเคยพาทีมเข้าชิงถ้วยยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ตอนปี 2017 มาแล้ว


นอกจากนี้ ดีบาล่า ยังติดทีมยอดเยี่ยมของลีกมาอีก 4 ครั้ง และเคยได้รางวัลนักเตะยอดเยี่ยมของลีกอีก 1 หน เมื่อปี 2020 ก่อนจะไม่ได้รับการต่อสัญญา​กับทีมเมื่อซีซั่นที่ผ่านมา จนกลายเป็นฟรี เอเย่นต์และย้ายมาอยู่กับ โรม่า ในที่สุด


ดังนั้นการที่ โรม่า ได้ตัวของเขามาร่วมทัพแม้จะเป็นของฟรี แต่ก็ถือว่าเป็นบิ๊กดีลประจำซัมเมอร์นี้เลยก็ว่าได้ เพราะชื่อชั้นและประสบการณ์​ของ ดีบาล่า นั้น น่าจะเข้ามาช่วยยกระดับทีมของ มูรินโญ่ ได้อีกเยอะเลย




ดีบาล่า เล่นได้ดีที่สุดคือตำแหน่งกองหน้าตัวต่ำ และสื่ออิตาเลียนก็เริ่มคาดการณ์​กันแล้วว่าเขาน่าจะจับคู่กับ แทมมี่ อับราฮัม ในแดนหน้าได้อย่างสบาย ๆ เพราะจากผลงานในอดีตที่ผ่านมา ต้องยอมรับเลยว่า ดีบาล่า เป็นตัวสนับสนุนกองหน้าที่ยอดเยี่ยมมากคนนึงของวงการ เขาเคยซัพพอร์ตทั้ง อิกวาอิน, โมราต้า, มานด์ซูคิซ และ โรนัลโด้ จนทำผลงานได้ดีที่ ยูเว่ มาแล้ว


ดีบาล่า เป็นนักเตะฝีเท้าดีและนิสัยดีมาก ๆ คนนึง เขาเป็นขวัญใจของทุก ๆ ที่ที่ไปเล่นด้วย อีกทั้งยังเป็นคนที่สู้ชีวิต ไม่ยอมแพ้อะไรง่าย ๆ แม้ว่าจะเจออุปสรรค​มากมายหลายครั้งหลายหนก็ตาม ซึ่งในจุดนี้อาจเป็นอีกเหตุผล​หนึ่ง​ที่ มูรินโญ่ มองเห็นและชื่นชอบเป็นการส่วนตัวจนพยายามตามตื๊อดึงตัวมาร่วมทีมให้ได้


การถูกทอดทิ้งจาก ยูเวนตุส ในครั้งนี้ เป็นแค่อีกหนึ่งบทพิสูจน์​สำหรับอาชีพนักฟุตบอลของเขา และก็เป็นอีกครั้งที่ดาวเตะเจ้าของฉายา ลา โฮย่า ต้องถลกแขนเสื้อเพื่อลุกขึ้นสู้ต่อ และตอนนี้เขาก็กำลังทำผลงานได้โดดเด่นสุด ๆ อีกด้วย


กับชีวิตใหม่ที่โรม สิงห์อีซ้ายรายนี้บรรจงซัดไปแล้ว 4 ประตู 2 แอสซิสต์จาก 8 นัดรวมทุกรายการ


ลงลึกไปแค่ผลงานในเซเรีย อา เขายิงได้ 3 ประตูจาก 6 นัด เป็นการยิงนอกเขตโทษของโปรด 1 และยิงในกรอบอีก 2 นอกจากนี้ยังสร้างโอกาสให้ทีมไปแล้ว 19 ครั้ง เป็นดาวซัลโวและท็อป แอสซิสต์ของทีมในเวลานี้


ลา โฮย่า เป็นภาษาละตินมีความหมายว่า เพชร


ซึ่ง เปาโล ดีบาล่า อาจเป็นเพชรที่ไม่ได้เจิดจรัสอย่าง เมสซี่ หรือ โรนัลโด้ ก็จริง แต่ถ้าถามเรื่องความแข็งแกร่งทางจิตใจ


ผู้ชายคนนี้ก็แกร่งไม่แพ้ใครในวงการอย่างแน่นอน


ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด