บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด แชมป์เก่า 2 สมัยจะเปิดบ้านรับการมาเยือนของ ตราด เอฟซี เช่นเดียวกับ รองแชมป์เก่า ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด จะเปิดบ้านรับการมาเยือนของ สุโขทัย เอฟซี เนื่องจากในกลางสัปดาห์หน้าทั้งคู่จะมีคิวลงทำศึกฟุตบอลเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก รอบแบ่งกลุ่ม ทำให้ต้องขยับโปรแกรมมาแข่งขันก่อน 

วกกลับมาที่ผลงานของทีมชาติไทย เริ่มที่ “ชุดใหญ่” ต้องบอกว่าทำผลงานได้ไม่เลว แม้จะพลาดแชมป์ฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทานคิงส์คัพ ครั้งที่ 49 หลังดวลจุดโทษแพ้ให้กับ อิรัก ทีมอันดับ 70 ของโลกไป 5-4 หลังเสมอในเวลา 90 นา 2-2 ชนิดที่โดนนำ 2 ครั้ง 2 ครา แต่ยังสวมหัวใจนักสู้ไล่ตามจนถึงวินาทีสุดท้าย เรียกว่าแม้ไม่ได้แชมป์ แต่ชนะใจคนดูเต็มๆ

ประเด็นต่อมาที่แฟนบอลจับตามองคืออนาคตของ “มาโน่ โพลกิ้ง” ว่าจะโดนพิพากษาจาก “มาดามแป้ง” นวลพรรณ ล่ำซำ ผู้จัดการทีมอย่างไร? จะไปต่อหรือพอแค่นี้ แล้วเปิดทางให้ มาซาทาดะ อิชิอิ เข้ามาสวมบทแม่ทัพ “ช้างศึก” เต็มตัวหรือไม่? หลังปัจจุบันนั่งเก้าอี้ ผอ. เทคนิค มีหน้าที่ดูฟอร์มนักเตะหรือเรียกว่าสเก้าท์คงไม่ผิดหนัก

อย่างไรก็ตาม “มาดามแป้ง” ได้ยืนยันว่า “เห็นชอบ” ให้ “มาโน่” ทำหน้าที่เฮดโค้ชทีมชาติไทยต่อไปจนครบสัญญาในปีหน้าคือจบการแข่งขันฟุตบอลเอเชียนคัพ 2024 ที่กรุงโดฮา ประเทศกาตาร์ 

ต้องยอมรับว่าการตัดสินใจครั้งนี้ถือว่า “ถูกต้อง” เพราะผลงานของกุนซือเลือดผสมเยอรมนี-บราซิล ไม่ได้เลวร้ายอะไร ศึกคิงส์คัพล่าสุด ไทย ไม่แพ้ในเวลาปกติกับทีมที่อันดับฟีฟ่าแรงกิ้งสูงกว่าเลย ชนะ เลบานอน อันดับ 100 ของโลก 2-1 และเสมอ อิรัก 2-2 (แพ้ 5-4 ในการดวลจุดโทษ) 

หากเปลี่ยนเอา “อิชิอิ” เข้ามาคุมทีมอาจจะต้องไปรื้อระบบทำงานใหม่ เรียกว่าต้องไปนับ 1 อีกครั้ง 

อย่าลืมว่าโปรแกรมและการเตรียมตัวก่อนลงแข่งขันฟุตบอลโลก 2026 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย รอบ 2 เหลือไม่มาก เพราะเริ่มหวดแข้งในเดือนพฤศจิกายนนี้แล้ว 

เต็มที่การไปเยือน จอร์เจีย และ เอสโตเนีย ในฟีฟ่า เดย์เดือนตุลาคม น่าจะมีการเตรียมทีมไม่เกิน 10 วันเท่านั้น คงยากที่นักเตะจะปรับตัวเข้ากับแท็คติคใหม่ของกุนซือเลือดซามุไรที่ซับซ้อนไม่น้อย 

ไหนจะทีมงานสต๊าฟฟ์โค้ชส่วนใหญ่ “มาโน่” เลือกมาอีก หากลูกพี่โบกมือลา มีหรือที่พวกเขาจะอยู่ทำหน้าที่ต่อ นั่นจะทำให้สมาคมฯ หรือ มาดามแป้ง ต้องวุ่นหาตัวแทนอีก การตัดสินใจครั้งนี้ของ “มาดามแป้ง” จึงวินวินทั้งหมด 

เหลือแค่ให้ “มาโน่” และ “อิชิอิ” ทำงานร่วมกัน มองหาจุดแข็งจุดอ่อน ปรับการฝึกซ้อม ผสมผสานลูกหนังฉบับเยอรมนี, บราซิล, ญี่ปุ่น และ ไทย เข้าด้วยกันอย่างกลมกลอมเท่านั้น 

ขณะที่ ธีราทร บุญมาทัน แบ็คซ้ายกัปตันทีม “ช้างศึก” เป็นคนแรกที่ออกมาซัพพอร์ต “มาโน่” และยืนยันว่าจะหนุนหลังกุนซือรายนี้ต่อไป เรียกว่าช็อตนี้ได้ใจทุกฝ่ายไปเต็มๆ ทั้งทีมงานสต๊าฟฟ์โค้ช เพื่อนร่วมทีม และแฟนบอล 

ในวันที่ทีมเพิ่งแพ้ สถานการณ์นอกสนามมีแต่ข่าวลือเต็มไปหมด สภาพจิตใจเพื่อนร่วมทีมกำลังย่ำแย่ การที่ “อุ้ม” ออกมาโพสต์ข้อความบนโลกโซเชียลส่วนตัวมันทำให้กระแสที่ทำกำลังร้อนแรงเย็นลงทันที ไม่ต่างจากไฟป่าที่กำลังลามทุ่งแต่สงบลงได้เพราะสายฝนที่โปรยปรายพอดี 

นี่คือภาวะผู้นำของจริง สมแล้วที่มีปลอกแขนกัปตันทีมรัดอยู่บนต้นแขนซ้าย เรียกว่านี่คือยอดกัปตันทีมของฟุตบอลไทยยุคใหม่คงไม่ผิดนัก 

จากนี้เวลาของ “อุ้ม” กับทีมชาติเหลือไม่มากนัก นักเตะรุ่นใหม่ๆ กำลังไล่หลังต่อที่จะมาทดแทน นอกจากฝีเท้าที่ต้องพัฒนาตามให้เหมือนหรือเหนือกว่าดาวเตะจาก บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด แล้ว 

สิ่งหนึ่งที่นักเตะรุ่นใหม่ควรจะมีและควรทำเป็นแบบอย่างคือ การมีความผู้นำในสนาม มีความเป็นนักสู้เหมือนกับชายที่ชื่อ “โก๋อุ้ม” ให้ได้ 

หากนักเตะสายเลือดใหม่ทำได้ ทัพ “ช้างศึก” จะแกร่งทั้งฝีเท้าและหัวจิตหัวใจ เมื่อนั้นทีมชาติไทยจะน่ายำเกรง สำหรับทีมในเอเชียอย่างแน่นอน