:::     :::

ปัจจัยที่นำไปสู่ชัยชนะของมาดริด

วันศุกร์ที่ 06 เมษายน 2561 คอลัมน์ ลูกหนังนอกกรอบ โดย JOKE
1,343
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ซีเนดีน ซีดาน เทรนเนอร์คนเก่งของ เรอัล มาดริด กับ ดีเอโก้ ซิเมโอเน่ เทรนเนอร์ของ แอตเลติโก มาดริด จะลงดวลกึ๋นกันอีกครั้งในศึกมาดริดดาร์บี้คืนวันอาทิตย์นี้

    ไม่ว่าจะเป็นเกมดาร์บี้ ณ แห่งหนตำบลใดก็ตาม มันคือแมตช์ที่ไม่มีใครยอมใครเพราะมันเดิมพันด้วยศักดิ์ศรีของสโมสรนั้นๆ
   
    นครหลวงของสเปนกำลังจะลุกเป็นไฟอีกครั้งจากศึกมาดริดดาร์บี้่แมตช์ระหว่าง เรอัล กับ อัตเลติโก ซึ่งมีดีกรีความยิ่งใหญ่ไม่ต่างจากเกมดาร์บี้อื่นๆทั่วโลก
   
    เรอัล มาดริด กับ แอตเลติโก มาดริด ต่างฝ่ายต่างมีสิ่งที่ต้องพิสูจน์...

       
    แอตเลติโก มาดริด ยกระดับขึ้นมาเป็นคู่ปรับที่ทัดเทียมกับคู่กัดร่วมเมือง นับตั้งแต่มีเทรนเนอร์ชื่อ ดีเอโก้ ซิเมโอเน่ ซึ่งเคยสร้างประวัติศาสตร์คว้าแชมป์ลีกาเป็นครั้งแรกในรอบ 18 ปี
   
    แต่จุดด่างพร้อยของทีมตราหมียุคเทรนเนอร์ชาวอาร์เจนไตน์คือการปราชัยต่อทีมชุดขาวในนัดชิงชนะเลิศของศึกยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ถึง 2 ครั้งในรอบ 3 ปี
       
    ซิเมโอเน่ เกือบจะนำทีมตราหมีคว้าแชมป์ยุโรปครั้งแรกที่ลิสบอนในช่วงฤดูกาล 2013-2014 แต่ความหวังพังทลายลงทันทีที่ถูก เซร์คิโอ รามอส โขกประตูตีเสมอในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ ก่อนทีมชุดขาวของ คาร์โล อันเชล็อตติ จะกด 3 ลูกรวดในช่วงต่อเวลาพิเศษจาก แกเร็ธ เบล, มาร์เซโล่ วิเอยร่า และ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ตบหมีด้วยสกอร์ 4-1


   
    เทรนเนอร์ชาวอาร์เจนไตน์มีโอกาสแก้ตัวอีกครั้งใน 2 ปีต่อมาที่เมืองมิลาน ซึ่ง แอตเลติโก มาดริด มีโอกาสชูโทรฟี่แชมป์ครั้งแรกของสโมสร แต่ดูเหมือนเทพีแห่งโชคจะไม่ได้ยืนเคียงข้างซิเมโอเน่ ทั้งที่ทีมตราหมีมีโอกาสจะแจ้งกว่าในช่วงครึ่งหลัง แต่ อองตวน กรีซมันน์ ยิงจุดโทษพลาดตั้งแต่ช่วงนาที 48
   
    ทว่า ยานนิค เฟร์เรยร่า การ์ราสโด้ ยังยิงตีเสมอให้ทีมตราหมีสำเร็จช่วงนาที 79 ก่อนเกมจะลากยาวไปจนถึงการดวลเป้าตัดสิน ซึ่ง เรอัล มาดริด ซัดแม่นกว่าเป็นฝ่ายกำชัยด้วยสกอร์ 5-3
   
    นั่นคือความผิดหวังซ้ำซ้อนที่ยังคาใจซิเมโอเน่มาจนถึงทุกวันนี้
   
    ฝั่ง เรอัล มาดริด ของ ซีดาน เหลือโอกาสตามทฤษฎีในการป้องกันตำแหน่งแชมป์ลีกเมืองกระทิง แต่เหนือสิ่งอื่นใดคือเทรนเนอร์ชาวฝรั่งเศสหวังต่อยอดเก็บชัยชนะเพื่อจบฤดูกาลด้วยการมีอันดับเหนือกว่าคู่กัดร่วมเมือง แม้มันอาจหมายถึงการหยิบยื่นแชมป์ลีกาให้ทีมคู่ปรับตลอดชาติอย่างทีมอาซูลกราน่าโดยง่ายก็ตาม
   
    แอตเลติโก มาดริด นั่งแท่นรองจ่าฝูงมี 67 คะแนนจากการลงเล่น 30 นัด ขณะที่ เรอัล มาดริด อยู่อันดับ 3 มีคะแนนตามหลัง 4 แต้ม ถ้าหากซีดานต้องการนำทีมชุดขาวจบฤดูกาลด้วยอันดับดีสุด เด็กๆของเทรนเนอร์ชาวฝรั่งเศสจะต้องตบทีมตราหมีสถานเดียวเท่านั้น


   
    ซีดาน นำทีมชุดขาวบุกสยบ ยูเวนตุส 3-0 บนเวทีแชมเปี้ยนส์ลีกรอบ 8 ทีม นัดแรก ตั้งแต่วันอังคารที่ผ่านมา นักเตะมาดริดจึงได้เปรียบคู่กัดร่วมเมืองที่เพิ่งลงเล่นยูโรปาลีกรอบเดียวกันเมื่อวันพฤหัสฯกับ สปอร์ติ้ง ลิสบอน ซึ่งทีมตราหมีกดทีมเยือนจากโปรตุเกส 2-0
   
    เรอัล มาดริด จึงมีความสดเหนือกว่าเพราะมีเวลาพักฟื้นคืนสภาพมากกว่า 48 ชั่วโมง ซึ่งมันน่าจะเป็นข้อได้เปรียบของทีมชุดขาวที่มองข้ามไม่ได้เช่นกัน
   
    แอตเลติโก มาดริด มีคะแนนตามหลังจ่าฝูง บาร์เซโลน่า 9 แต้ม แม้ ซิเมโอเน่ จะเคยบอกกล่าวผ่านสื่อว่าทีมตราหมีหมายมั่นจะบุกมาโค่นทีมชุดขาวถึง'ซานติอาโก้ เบร์นาเบว'เพื่อรักษาความหวังในการลุ้นแย่งแชมป์ลีกามาจากกำมือของทีมอาซูลกราน่าก็ตาม
   
    ทว่าหลังจบศึก'มาดริดดาร์บี้'ช่วงค่ำคืนวันอาทิตย์นี้จะเหลือโปรแกรมลงเล่นอีกเพียง 7 นัด ขณะเดียวกัน บาร์เซโลน่า ของ เอร์เนสโต้ บัลเบร์เด้ ยังไม่มีทีท่าว่าจะอ่อนแรงหรือสะดุดอย่างที่บรรดากองแช่งคาดหวัง
   
    ดังนั้นกูรูลูกหนังเมืองกระทิงจึงมองว่า ซิเมโอเน่ น่าจะเบนเป้าไปสู่การคว้าแชมป์ยูโรปาลีก ซึ่งเป็นความสำเร็จเดียวที่ทีมตราหมีมีโอกาสจับต้องได้และเป็นความหวังหนึ่งเดียวในซีซั่นนี้


   
    แอตเลติโก มาดริด เปิด'ว่านต๋า เมโตรโปลีตาโน่'กด สปอร์ติ้ง ลิสบอน 2-0 เมื่อวันพฤหัสฯที่ผ่านมา แม้หลายคนจะมองว่าทีมตราหมีแหย่ขาข้างหนึ่งเข้าไปในรอบรองชนะเลิศแล้วก็ตาม แต่เกมเยือนลิสบอนในวันพฤหัสฯหน้าก็ไม่ใช่งานง่ายสำหรับเด็กๆของซิเมโอเน่เช่นกัน
   
    เรอัล มาดริด อาจจะทำผลงานแกว่งไปแกว่งมาในฤดูกาลนี้จนตกรอบ โกปา เดล เรย์ และส่อแววพลาดโอกาสป้องกันแชมป์ลีกาฤดูกาลนี้ แต่ทีมชุดขาวของ ซีดาน ยังก้าวเดินบนเวทีแชมเปี้ยนส์ลีกอย่างสวยหรูและมีโอกาสสร้างประวัติศาสตร์ด้วยการคว้าแชมป์รายการนี้ 3 สมัยติดต่อกันเป็นทีมแรก
   
    'โลส บลังโกส'คว้าชัยชนะจากการลงเล่นทุกรายการ 6 เกมติดต่อกันและยังชนะ 11 จาก 12 นัดล่าสุด โดยสะดุดพ่าย เอสปันญ่อล 0-1 เพียงทีมเดียวเท่านั้น
   
    เรอัล มาดริด กำลังทำผลงานเข้าฝักและดูเหมือนจะใกล้กลับมาเป็นทีมชุดขาวที่เคยประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่ในซีซั่นก่อนอีกครั้ง แน่นอนว่าซีดานหวังต่อยอดผลงานด้วยการคว้าชัยชนะในศึกมาดริดดาร์บี้แมตช์วันอาทิตย์นี้


   
    ปัจจัยสุดท้ายที่ เรอัล มาดริด จะเป็นผู้ชนะเหนือ แอตเลติโก มาดริด มาจากชายชื่อ คริสเตียโน่ โรนัลโด้!!!
       
    โรนัลโด้ เพิ่งดังเป็นพลุแตกหลังการตีลังกายิงประตูสุดสวยให้ทีมชุดขาวบุกขย้ำ ยูเวนตุส 3-0 เมื่อวันอังคารที่ผ่านมาหลังซุปตาร์ชาวโปรตุกีสทำประตูเบิกร่องตั้งแต่ช่วงต้นเกม ซึ่้งเป็นการสร้างสถิติยิงประตูในรายการนี้ 10 เกมติดต่อกันและเป็นประตูที่ 14 ในซีซั่นนี้ของดาวดังชาวโปรตุกีสด้วย
   
    นับจากเปิดฉากปี 2018 เป็นต้นมา โรนัลโด้ ทำสถิติกระทุ้ง 23 ประตู ซึ่งเป็นการกระทุ้งบนเวทีลีกา 18 ประตูขยับยอดรวมเป็น 22 ประตูกลับมามีลุ้นทั้งรางวัลดาวซัลโวลีกาและรองเท้าทองคำอีกครั้ง
   
    โรนัลโด้ กำลังเข้าฝักและมีแรงบันดาลใจในการสะสมยอดประตูเพิ่มขึ้นเพื่อไขว่คว้าความสำเร็จส่วนตัว นอกจากนี้ซุปตาร์ชาวโปรตุกีสยังเป็นอีกหนึ่งตัวแสบสำหรับแนวรับของทีมตราหมีด้วย
   
    สื่อเมืองกระทิงยืนยันว่า ซีดาน พร้อมจะส่งแข้งตัวหลักลงบู๊กับ แอตเลติโก มาดริด ในวันอาทิตย์นี้ซึ่งหมายรวมถึง คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ซึ่งจะเป็นปัจจัยหลักในการนำทีมชุดขาวคว้าชัยชนะจากมาดริดดาร์บี้คืนวันอาทิตย์นี้


ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด