แต่เพราะอะไรฟอร์มของเขาถึงได้เปรี้ยงปร้างชนิดที่ยากต่อการหยุดยั้งได้ขนาดนี้ วันนี้เราจะลองมาวิเคราะห์กันดูทีละจุด กับเหตุผลที่หัวหอกฟอร์มแซมบ้าก้าวมาเป็นความหวังสูงสุดในแดนหน้าของทีม “ฉลามชล” 

1. ถูกใจ “โค้ชเตี้ย” จนรีเควสต์ดึงมาร่วมทีม

 เรื่องนี้เกิดขึ้นในตอนก่อนจบซีซั่นที่แล้วที่ ชลบุรี เอฟซี ยกพลไปเยือน สุพรรณบุรี เอฟซี ทีมเก่าของเขา ซึ่งวันนั้น ดานิโล่ อัลเวส โขกให้ทีมขึ้นนำ 1-0 น.57 และเป็นภาพที่ติดตา “โค้ชเตี้ย”สะสม พบประเสริฐ เทรนเนอร์ “ฉลามชล” เข้าอย่างจัง จนไม่อาจจะลืมได้เลย

 จบเกมนั้น ชลบุรี เอฟซี แพ้ 1-2 หลังจากสิ้นสุดฤดูกาล “โค้ชเตี้ย” เดินไปบอก ศศิศ สิงห์โตทอง ผู้จัดการทีม ว่า ต้องการได้หัวหอกเจ้าของสถิติผู้ลงสนามไปทั้งสิ้น 31 นัดทุกรายการ ทำได้ 19 ประตู แบ่งเป็น ไทยลีก 12 ประตู, เอฟเอคัพ 6 ลูก และ ลีก คัพ 1 เม็ด รายนี้มาร่วมทีมมากที่สุด

ทำให้ดีลนี้เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว และฝั่ง “ฉลามชล” ก็คว้ามาได้แบบไม่ต้องเสียค่าตัว ซึ่งค่าเหนื่อยที่มีการประมาณในเบื้องต้นเป็นตัวเลขที่ไม่สูงเกินเพดานของทีมอีกด้วย ถือว่าเขาเป็นนักเตะที่เข้ามาเติมเต็มได้อย่างลงตัวด้วยเม็ดเงินที่ไม่สูงอย่างที่หลายคนคิดเลย

2. อาการบาดเจ็บของ “เดนนิส มูริลโล่”

หลังจากที่ เดนนิส มูริลโล ย้ายจาก นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี มาร่วมทัพ "ฉลามชล" ในช่วงก่อนเปิดซีซั่น 2021/22 ที่ผ่านมา ลงสนามให้กับ ชลบุรี เอฟซี ไปทั้งสิ้น 31 นัดในทุกรายการ ยิงได้ 11 ประตู แบ่งเป็น ไทยลีก 9 ประตู กับ ลีก คัพ อีก 2 ลูก แต่ทว่าเขาจำเป็นต้องเข้ารับการผ่าตัดข้อเท้าซ้าย ที่เคยมีอาการบาดเจ็บเรื้อรังมาตลอดทั้งฤดูกาลที่ผ่านมา 

นี่เป็นอีกสาเหตุหลักที่ “ฉลามชล” ต้องดึง ดานิโล่ อัลเวส เข้ามาเสริมในแดนหน้า และไม่นานเขาก็สามารถปรับตัวให้เข้ากับแนวทางการเล่นของต้นสังกัดใหม่ได้ทันที ซึ่งเขาไม่ได้ทำหน้าที่แค่เรื่องการจบสกอร์เท่านั้น

เพราะในเกมแรกที่ยกทัพออกไปเจอกับ โปลิศ เทโร เอฟซี เขายังแอสซิสต์ให้กับ สุขสันต์ บุญตา ดาวรุ่งที่เพิ่งจะขึ้นมาจาก พัทยา ดอลฟินส์ ยูไนเต็ด โขกประตูแรกในสีเสื้อ ชลบุรี เอฟซี ของดาวรุ่งรายนี้ และปิดกล่องให้ทีมชนะ 2-0 นอกจากนี้ ดานิโล่ ยังมีส่วนร่วมกับเกมเยอะมาก ตั้งแต่การไล่เพรสซิ่งในแดนบน เล่นเกมรับตั้งแต่หน้าไลน์กองหลังคู่ต่อสู้ และคอยเชื่อมบอลกับเพื่อนอยู่ตลอดเวลา การเคลื่อนที่ยามไม่มีบอลของเขาได้รับคำชมอย่างมากจากโค้ชและกองหลังคู่ต่อสู้ ว่ายากที่จะรับมือได้จริงๆ 

3. ฟอร์มสุดจัดตั้งแต่พรีซีซั่น

ความลงตัวของ ดานิโล่ อัลเวส กับ ชลบุรี เอฟซี แสดงให้เห็นตั้งแต่ในรายการ “ล่องใต้ คัพ 2022” ที่เขาทำได้ 1 ประตู ในรอบชิงชนะเลิศ แม้วันนั้นจะแพ้ให้กับ การท่าเรือ เอฟซี แต่ว่าเขาก็ได้โชว์ลีลาลูกยิง “ปั่นโค้งๆ” ให้ชมเป็นขวัญตา

ความยอดเยี่ยมของหัวหอกบราซิล ยังเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องก่อนที่ไทยลีก 2022/2023 จะเปิดฉากขึ้น ซึ่งเป็นเกมอุ่นเครื่องวาระฉลองสนามแห่งใหม่ “จาการ์ตา สเตเดี้ยม” โดยลงมาเป็นสำรองยิงให้ทีมหนี 3-2 ก่อนจะจบเกมเสมอ เพอร์ซิจา จาการ์ต้า ของ อินโดนีเซีย ไปแบบสุดมันส์ 3-3

ทั้งสองรายการดังกล่าว เขาได้สร้างอิมแพ็คอย่างมหาศาลให้กับสาวก “ฉลามชล” ที่เชื่อไปแล้วว่านี่คือดีลที่คุ้มค่าอย่างมากในการเสริมทัพช่วงตลาดเลกแรก 

4. สืบทอดดาวยิงแซมบ้าระดับตำนาน "ฉลามชล"

ชลบุรี เอฟซี มีตำนานดาวยิงชาวบราซิล สลับเปลี่ยนหมุนเวียนเข้ามาสร้างชื่อมากมายในอดีต ดานิโล่ อัลเวส ก็อาจจะก้าวขึ้นมาเป็นตำนานบทใหม่ในรัง “ฉลามชล”  หากย้อนอดีตไปเริ่มจาก เนย์ ฟาเบียโน่ ที่ย้ายมาร่วมทีมในปี 2008 จนทำผลงานได้ดีใน เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก 

แม้ว่าทีมจะตกรอบแบ่งกลุ่ม แต่ว่า เมลเบิร์น วิคตอรี่ ที่ได้เห็นฝีเท้าก็ตัดสินใจทุ่มเงินประมาณ 5 ล้านบาท คว้าเขาไปค้าแข้งใน เอลีก ออสเตรเลีย รวมทั้งการที่เล่นกับทีมมาตั้งแต่ฤดูกาล 2012-2015 ลงเล่นทั้งหมด 99 นัด ยิงไป 74 ประตูจากทุกรายการ

ก่อนย้ายไปอยู่กับ การท่าเรือ เอฟซี ต่อด้วย มุมไบ ซิตี้ (อินเดีย) , ลอนดริน่า (บราซิล) และ บาริโต ปูเตรา (อินโดนีเซีย) 

รวมไปถึง ลูเคียน อัลเมดา ที่แม้จะมีช่วงเวลาเพียงสั้นๆกับทีมเมื่อปี 2019 แต่การยิงไปถึง 11 ประตู จาก 14 นัดในลีก ก็ต้องยอมรับว่ายอดเยี่ยมมากๆ จนกระทั่งถูก จูบิโล่ อิวาตะ ซื้อไปลุย เจ ลีก ด้วยราคาถึง 15 ล้านบาท

ณ ตอนนี้ ดานิโล่ อัลเวส กลายเป็น “เพชฌฆาตล่าตาข่าย” คนใหม่ที่ ชลบุรี เอฟซี ได้เข้ามาเสริม และเริ่มพิสูจน์ให้เห็นถึงความยอดเยี่ยมของเขาไปในระดับนึงแล้ว และแน่นอนว่าเส้นทางในฤดูกาลนี้ยังอีกยาวไกลนัก หากเขาสามารถยืนระยะได้แบบนี้ไปจนจบฤดูกาล

และลองคิดเล่นๆว่าหาก เดนนิส มูริลโล่ หายเจ็บกลับมาสมบูรณ์ เพื่อผนึกกำลังกับ ดานิโล่ อัลเวส อีกคนความน่ากลัวในการไล่ล่าตาข่ายฝั่งตรงข้าม ของ "ฉลามชล" จะน่าสะพรึงขนาดไหน!