:::     :::

"แบงค์ ศุภณัฏฐ์"ในช่วงยามที่กำลังผลิบาน

วันเสาร์ที่ 11 กุมภาพันธ์ 2566 คอลัมน์ ONE MAN SHOW โดย แมน โกสินทร์
807
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ชั่วโมงนี้คงจะถือว่าตกขบวนไม่น้อย หากไม่ได้กล่าวถึงแข้งที่กำลังฟอร์มร้อนแรงแบบสุดๆ อย่าง "แบงค์" ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา หัวหอกจาก บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ที่ทำผลงานในไทยลีกฤดูกาลนี้ไว้ได้อย่างยอดเยี่ยม

หลังจากครั้งแรกที่ เนวิน ชิดชอบ ประธานสโมสร ได้เริ่มทำการส่ง “เจ้าแบงค์” พร้อมกับ ศุภชัย ใจเด็ด และ รัตนากร ใหม่คามิ ไปเรียนรู้ศาสตร์วิชาของ เลสเตอร์ ซิตี้ ก่อนเปิดฤดูกาลนี้

การกลับมาครั้งนั้นแม้ว่าทีมจะแพ้ใน ไทยแลนด์ แชมเปี้ยนส์ คัพ ให้กับ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด แต่ดูแล้วพัฒนาการของแต่ละคนโดดเด่นขึ้นพร้อมกับช่วยยกระดับทีมให้มีวิชั่นส์ที่ก้าวสูงขึ้นไปอีกสเต็ปตามเป้าหมายที่วางไว้

ในรายของ ศุภชัย สามารถขึ้นมายิงแข่งกับกองหน้ารายอื่น บี้กับ ดานิโล่ อัลเวส หัวหอกชาวแซมบ้าของ ชลบุรี เอฟซี ในเวลานี้ โดยซัดไปแล้ว 12 ประตูเท่ากัน นำเป็นดาวซัลโวร่วม ส่วน แฮมิลตัน โซอาเรส ของ การท่าเรือ เอฟซี ตามมาติดๆ ห่างเพียง 1 ลูก


ด้านของ ศุภณัฏฐ์ เองก็พัฒนาขึ้นมาอย่างมาก ในด้านของสปีดที่สามารถกระชากบอลไปเอวด้วยความเร็ว และจังหวะการแอสซิสต์ที่เฉียบคมยิ่งกว่าเดิม เปรียบเสมือน “เสือร้าย” ที่หิวกระหายในกรอบเขตโทษ จนแฟนบอลทั้งของ "ปราสาทสายฟ้า" เองและทีมอื่นๆ ต่างให้การยอมรับ

จากนั้นในช่วงเดือน ธ.ค.ที่ผ่านมา เจ้าของสถิตินักเตะอายุน้อยที่สุดที่ได้ลงเล่นในไทยลีกที่เคยจารึกไว้ด้วยวัย 15 ปี 8 เดือน 22 ได้กลับไปซ้อมที่เลสเตอร์ซิตี้ อีกครั้ง  พร้อมกับ รัตนากร, ศุภชัย, นฤบดินทร์ วีรวัฒโนดม และ ชิติพัทธิ์ แทนกลาง


 แต่กลายเป็นว่าเขาเป็นคนเดียวที่ได้อยู่ต่อในวันที่คนอื่นๆ เดินทากลับแล้ว รวมทั้งสิ้นเป็นเวลาราว 40 วันที่ "แบงค์" ได้ฝึกวิชาลูกหนังกับทีม "จิ้งจอกสยาม" เรื่องนี้ "ลุงเนวิน" ได้ออกมาเปิดใจในงานขอบคุณผู้สนับสนุน และสื่อมวลชน เมื่อ 21 ธ.ค. ที่โรงละครอักษรา คิง เพาเวอร์ ชั้น 3 ภายใต้ชื่อ “Buriram United AS ONE” ว่า 

 "ศุภณัฏฐ์ ต้องอยู่เพื่อทำความคุ้นเคย และเข้าใจกับระบบของทีมอยู่พอสมควร เพราะว่าการไปรอบนี้เหมือนกับการไปทดสอบครั้งที่สองของ ศุภณัฏฐ์ หากตัวเขาผ่านการประเมินรอบนี้ จบฤดูกาลนี้ก็มีโอกาสไปเล่นในลีกยุโรป เพราะฉะนั้นเราต้องให้เวลากับเด็กให้เต็มที่ ในการที่จะไปเก็บตัวฝึกซ้อม"

 การกลับมาครั้งนี้เปรียบเสมือนการเข้าสู่ “ร่างทอง” โดยทันที ทั้งกล้ามเนื้อส่วนต่างๆ ที่ชัดเจนกว่าเดิม ทั้ง แขน และ ขา รวมถึงจังหวะการเล่นฟุตบอลที่ดูอันตรายมากยิ่งขึ้นในทุกๆ มิติ ยกตัวอย่างเช่นในเกมที่เขาพา บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด บุกไปชนะ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด 2-0 เมื่อสัปดาห์ก่อน


ทุกอย่างเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วง นาทีที่ 71 ธีราทร บุญมาทัน จ่ายบอลให้ โกรัน เคาซิช แทงบอลเข้าเขตโทษให้ ฮาริส วุชคิช จ่ายบอลต่อให้ ศุภณัฏฐ์ ใช้ความสามารถเฉพาะตัวโยกหลอกผู้เล่นเจ้าถิ่นก่อนจะยิงบอลมุมแคบผ่านตัว กิตติพงษ์ ภูแถวเชือก เข้าประตูไปอย่างเหนือชั้น

โดยส่วนตัวและเชื่อว่าอีกหลายๆ คนก็คิดไม่ต่างกัน อีกไม่นานนักเราคงจะไม่ได้เห็นชื่อของ “ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา” ในฟุตบอลลีกเมืองไทยอีกต่อไปแล้ว เพราะเขาพร้อมแล้วที่จะออกไปเผชิญโลกกว้างใบใหม่อย่างมาก ในเขตแดนที่ไม่มีคำว่าคอมฟอร์ตโซนอีกต่อไป เหมือนกับที่ชายของเขาอย่าง สุภโชค สารชาติ กำลังผจญภัยอยู่ที่ญี่ปุ่นกับ คอนซาโดเล ซัปโปโร


ครั้งหนึ่ง ชนาธิป สรงกระสินธ์ เคยพูดถึงดาวเตะ “ปราสาทสายฟ้า” ว่า "ผมคิดว่าคนต่อไปจะมา เจ ลีก คงเป็น ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา แน่นอน ผมมองแล้วรู้เลยว่าเซนส์บอล ร่างกาย และ ความฉลาด แตกต่างจากนักฟุตบอลไทยคนอื่นๆ แม้ที่ผ่านมาผมจะซ้อมกับเขาในเวลาที่ไม่เยอะมากนักก็ตาม แต่ผมเห็นก่อนหน้านี้อยู่แล้วตั้งแต่เล่นในรุ่นเยาวชนขึ้นมา"

ทว่าจุดหมายปลายทางของเจ้าของสถิตินักเตะอายุน้อยที่สุดที่ทำประตูในไทยลีกด้วยวัย 15 ปี 9 เดือน 25 วัน คือการไปเล่นในลีกยุโรปเท่านั้น ตามคำบอกเล่าของทาง "ลุงเนวิน"


ซึ่งความเป็นไปได้ก็มีอยู่ เนื่องจาก เลสเตอร์ ซิตี้ มีพันธมิตรคือ โอเอช ลูเวิน ที่มีเด็กไทยอยู่ที่นั่นมากมาย นี่คืออนาคตที่น่าจับตามองของ “ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา” อย่างมากๆ ว่าเขาจะโบยบินออกจาก ช้าง อารีนา ไปอยู่ ณ ที่ใด

ที่แน่ๆ หลังจากนี้ เขาจะก้าวขึ้นมาเป็นกำลังสำคัญของทีมชาติไทยชุดใหญ่ ที่จะขาดไปไม่ได้เลยอย่างแน่นอน


ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด